วันที่ 20 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันกองทัพเรือ ทหารเรือทุกนายต่างซาบซึ้งและเปี่ยมไปด้วยความสำนึก ในพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีคุณูปการแก่กองทัพเรือเป็นอเนกอนันต์

201611141733411-20090709164256

ย้อนหลังไป เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ.2481 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ได้เสด็จฯ นิวัติประเทศไทยเป็นการชั่วคราว พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กองทัพเรือได้จัดเรือหลวงศรีอยุธยา เป็นพระราชพาหนะจากเรือมีโอเนีย ซึ่งจอดลอยลำที่เกาะสีชัง แล่นมาจนถึงท่าราชวรดิฐ

 

201611141733412-20090709164256

โดยทรงประทับอยู่ในเรือประมาณ 2 เดือน กองทัพเรือได้จัดเรือหลวงแม่กลองเป็นพระราชพาหนะ นำเสด็จฯ จากท่าราชวรดิฐไปขึ้นเรือซีแลนเดีย ที่เกาะสีชัง เพื่อเสด็จฯกลับประเทศสวิตเซอร์แลนด์ วันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2481

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงมีความสนพระทัยในกิจการทหารเรือ ตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ ซึ่งจะเห็นได้จากทุกครั้งที่เสด็จประทับบนเรือพระที่นั่งที่กองทัพเรือจัดถวาย

และเมื่อทรงเจริญวัยขึ้น ก็ทรงต่อเรือจำลองแบบต่างๆ รวมถึงเรือใบ ทรงมีพระอัจฉริยภาพในด้านต่างๆ ยากที่จะหาผู้ใดเสมอเหมือน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือนั้น สามารถกล่าวได้ ดังนี้

การต่อเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง กองทัพเรือได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ในการพระราชทานทั้งพระราชดำริและพระบรมราชวินิจฉัยเกี่ยวกับการต่อเรือเพื่อการพึ่งพาตนเองของกองทัพเรือมาโดยตลอด

201611141733417-20090709164256

นับตั้งแต่การสร้างเรือตรวจใกล้ฝั่ง ชุดเรือ ต.91 ถึงเรือ ต.99 จำนวน 9 ลำ ระหว่างปี พ.ศ.2510 – 2530 อันเป็นการดำเนินโครงการของกองทัพเรือ ตามพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อคราวเสด็จฯ ทอดพระเนตรการต่อเรือยนต์รักษาฝั่งที่ประเทศเยอรมนี ทรงมีพระราชดำรัสว่า “กองทัพเรือควรต่อเรือประเภทนี้ขึ้นใช้เองบ้าง”

 

ในครั้งนั้นได้ทรงพระราชทาน ข้อคิดและคำแนะนำในการต่อเรือ ต.91 แก่เจ้าหน้าที่ของกรมอู่ทหารเรือ หลายประการ จนกระทั่ง เมื่อ เรือ ต.91 สร้างเสร็จสมบูรณ์ ในปีพ.ศ.2511 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จฯมาประทับบนเรือ เพื่อทดสอบสมรรถนะด้วยพระองค์เอง

201611141733418-20090709164256

อีกทั้งยังได้เสด็จฯ ประทับอีกลำในปีต่อมา เพื่อทอดพระเนตร การฝึกทักษิณ 12 ของกองทัพเรือ

ในวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2546 มีพระราชดำรัส เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียง โดยทรงยกตัวอย่าง โครงการสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ชุด เรือ ต.91 มีใจความสำคัญส่วนหนึ่งว่า “กองทัพทำอะไรพอเพียงเยอะแยะ ช่วยหลายอย่าง ทำได้อย่างทหารเรือ เรือ ต.91 เศรษฐกิจพอเพียง”

พระราชดำรัสข้างต้น แสดงให้เห็นถึงสายพระเนตรอันยาวไกล ที่ทรงเล็งเห็นถึงความสำคัญของการมีเรือรบที่ประเทศไทยสามารถต่อได้เองและซ่อมบำรุงได้เองอย่างมีประสิทธิภาพ

นำมาสู่โครงการจัดสร้างเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติในชุด ต.991 จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือ ต.991 เรือ ต.992 และ เรือ ต. 993 เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายในโอกาสทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา ในวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2550

กองทัพเรือได้ดำเนินการพัฒนาแบบเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่ง ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน และสอดคล้องกับแนวพระราชดำริดังกล่าว ก่อนที่จะขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาสเข้าเฝ้าฯ ถวายแบบเรือและข้อมูลการออกแบบเบื้องต้นของเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งลำใหม่

ซึ่งได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ผู้บัญชาการทหารเรือและคณะเข้าเฝ้าฯ พร้อมทั้งมีพระบรมวินิจฉัยในเรื่องขนาดรูปทรงของเรือ น้ำหนัก รวมทั้งการใช้เชื้อเพลิง และการออกแบบเพื่อให้เรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งลำใหม่นี้ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานและมีสมรรถนะสูงสุด

201611141733413-20090709164256

ในส่วนของ เรือ ต.991 กองทัพเรือต่อเองที่อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ กองทัพเรือ และได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯมา ทรงประกอบพิธีวางกระดูกงู ณ อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2548

new

จนกระทั่งเมื่อเรือต่อแล้วเสร็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงประกอบพิธีปล่อยเรือ ต.991 ลงน้ำเมื่อวันจันทร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ.2550 เวลา 18.15 น. อู่หมายเลข 1 อู่ทหารเรือธนบุรี กรมอู่ทหารเรือ

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงสนพระทัยและทอดพระเนตรการฝึกของกองทัพเรือในหลายครา

ในโอกาสวันกองทัพเรือ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ.2497 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯ โดยเรือหลวงแม่กลองเป็นเรือพระที่นั่ง ทอดพระเนตรการยกพลขึ้นบก และทรงตรวจพลสวนสนามทางเรือ ณ หาดบางแสน และประทับแรมบนเรือหลวงเกียรตินาวี ที่กองทัพเรือได้จัดถวายเป็นเรือพระที่นั่ง และเสด็จฯ กลับพระนคร

เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2497 การฝึกทักษิณ 12 ของกองทัพเรือ ระหว่าง 1-2 สิงหาคม พ.ศ.2512 ซึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช ฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จ ฯ ทอดพระเนตรการฝึกตลอดทั้ง 2 วัน รวมทั้งได้ประทับบนรถสะเทินน้ำสะเทินบก LVT – 4 หมายเลข 101 เสด็จ ฯ นำทหารนาวิกโยธินยกพลขึ้นบก ณ หาดบ้านทอน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส

ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ.2524 กองทัพเรือได้ทำการทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิธี เอ็กโซเซต จากเรือหลวงวิทยาคม เป็นครั้งแรกในประเทศไทย โดยใช้เรือหลวงปัตตานีที่ปลดระวางเป็นเรือเป้า ระยะยิง 11 ไมล์ทะเล (ประมาณ 20 ก.ม.)

ผลของการยิง อาวุธปล่อยนำวิถีถูกบริเวณกลางลำ แรงระเบิดทำให้ เรือหลวงปัตตานี ขาดเป็น 2 ท่อน และจมลง ในการยิงครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้ประทับสังเกตการณ์อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ ทรงมีพระราชดำรัสว่า

“ได้ไปดูที่เป้าแล้ว ถูกกลางเป้า ขอแสดงความยินดีต่อเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติงานได้ผลดีมาก ทหารเรือทุกนายคงจะมีกำลังใจ ในการปฏิบัติงาน ซึ่งมีเครื่องมือเครื่องใช้ที่มีประสิทธิภาพ”

 

ในวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ.2532 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จฯทอดพระเนตรการสาธิตการปฏิบัติการทางเรือ และการสาธิตการยกพลขึ้นบก ภายใต้รหัส “ยุทธการงูเขียวหางไหม้” ณ หาดหน้าพระราชวังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในโอกาสครบรอบ30 ปี ที่ได้พระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “มาร์ชราชนาวิกโยธิน” แก่ทหารนาวิกโยธิน

201611141733414-20090709164256

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้พระราชทานชื่อเรือหลวงทุกลำของกองทัพเรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรือหลวงจักรีนฤเบศร ซึ่งหมายถึงผู้เป็นใหญ่แห่งราชวงศ์จักรี ที่จะสร้างคุณประโยชน์สู่พี่น้องประชาชนชาวไทยอย่างมหาศาล และชื่อเรือหลวงจักรีนฤเบศรนี้ จะเป็นเครื่องเตือนใจให้ชาวไทยทุกคนระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสืบต่อไป

พระอัจฉริยภาพและพระราชกรณียกิจต่างๆ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นับได้ว่าทรงมีพระมหากรุณาธิคุณแก่กองทัพเรืออย่างหาที่สุดมิได้ ทำให้กิจการของกองทัพเรือได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กองทัพเรือมีความมั่นคง และพร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจ เพื่อความมั่นคงผาสุกของประเทศ และชาวไทยทั้งปวงตลอดไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน