บทบรรณาธิการ

 

การออกมาชี้แจงของทีมโฆษกกองทัพและโฆษก คสช. กรณีนักพูดหญิงสร้างแรงบันดาลใจไปร่วมกิจกรรมของกองทัพแต่เกิดกรณีพิพาทที่มีผู้ฟ้องร้องว่าสร้างความแตกแยกนั้น สรุปได้ว่าทางกองทัพไม่ได้ว่าจ้าง แต่เป็นการเชิญ

เหมือนกับที่เชิญอาจารย์ รวมถึงดารา นักร้อง นักแสดง มาร่วมทำกิจกรรมของกองทัพในงานต่างๆ อยู่เป็นประจำ

ในส่วนของนักพูดหญิงไม่ได้เป็นคนของกองทัพ แต่เห็นว่าเป็นผู้หญิงที่กล้า เป็นคนเก่ง และถ่ายทอดเรื่องราวได้ดี

คำชี้แจงดังกล่าวจึงยังเป็นที่ถกเถียงของคนในสังคม อันไม่เกี่ยวกับตัวนักพูดซึ่งได้ขอโทษ ในกรณีพาดพิงถึงประชาชนในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปแล้ว

แต่เป็นเกณฑ์ตัดสินความกล้า ความเก่ง อันเป็นที่มาของการเชิญร่วมกิจกรรม

 

การทำกิจกรรมที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนคนรุ่นใหม่นั้นควรจะเป็นไปอย่างสร้างสรรรค์ในทางบวก กระตุ้นให้เกิดความรักความเข้าใจและอยู่ร่วมกันได้อย่างสามัคคีในความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นฐานะ เชื้อสาย ภูมิภาค ศาสนา ฯลฯ

ความกล้าและความเก่งของคนรุ่นใหม่ควรอยู่บนพื้นฐานของการเคารพผู้อื่น มิใช่กล้าและเก่งที่จะตัดสินผู้อื่นอย่างเหมารวมและมองสังคมอย่างหยาบๆ

ยิ่งเป็นการพูดเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ยิ่งต้องผ่านการไตร่ตรอง กรณีกระทบกระเทือนต่อผู้ฟังส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นนั้นสะท้อนว่าไม่ได้มาจากเนื้อหาที่กลั่นกรองให้รอบคอบ

การจะเรียกว่ากล้าและเก่ง คงไม่ถูกนัก

 

บทเรียนจากกรณีนี้จึงควรสะท้อนให้เหล่านักพูด ดารานักแสดง และบุคคลสาธารณะพึงระวังการพูดที่จะมีผลกระทบต่อผู้อื่น

เพราะการพูดเหมารวมในลักษณะ Hate Speech เคยก่อให้เกิดความขัดแย้ง และความไม่ยุติธรรมต่อผู้คนมาแล้วหลายครั้ง

ไม่ว่าจะเป็นการกล่าวหาผู้คนขึ้นมาลอยๆ ทั้งไล่ออกจากประเทศ การกล่าวหากลุ่มคนว่าเป็นพวกเผาบ้านเผาเมือง การกล่าวหาเยาวชนที่แสดงออกทางความคิดว่าเป็นพวกสร้างความแตกแยก

นอกจากต้องไม่ส่งเสริมให้เกิดการพูดลักษณะนี้แล้ว การจะยกย่องผู้ใดเป็นคนกล้าและคนเก่งจึงควรต้องยกย่องให้ถูกทางด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน