นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ระบุการปฏิรูปในภาพรวมของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติว่า ดูแล้วรู้สึกเหนื่อย มองไม่เห็นว่าจะไปจบลงอย่างไร

ก่อนหน้านี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ตั้งสภาปฏิรูปแห่งชาติหรือ สปช. ขึ้นมาทำหน้าที่รวบรวมว่าจะปฏิรูปอะไร ด้านไหนบ้าง เมื่อสปช.พ้นสภาพไปก็ตั้งสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศหรือสปท.มาดำเนินการต่อ

ต่อมามีการยุบสปท. แล้วตั้งคณะกรรมการปฏิรูปด้านต่างๆ รวม 11 คณะ ซึ่งมีกรรมการเป็นจำนวนมาก และเป็นที่น่าสังเกตว่าทุกคณะมีแต่แผน แล้วให้ส่วนราชการเป็นผู้ปฏิบัติ

จึงยังไม่เห็นมีด้านไหนที่เป็นรูป เป็นร่าง

ข้อวิพากษ์วิจารณ์ดังกล่าว ทำให้หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรีออกมาตอบโต้และชี้แจงว่า ที่รัฐบาลดำเนินการมานั้นมีความคืบหน้าหลายด้าน เช่น การลดปัญหาความขัดแย้ง ความซับซ้อนของสังคม รวมถึงการแก้ไขกฎหมายต่างๆ

นอกจากนี้ ยังอ้างด้วยว่ามีแผนระยะยาวที่ต้องให้รัฐบาลชุดต่อไปดำเนินการต่อคือ แผนยุทธศาสตร์ชาติระยะเวลา 20 ปี เพื่อให้การปฏิรูปและการพัฒนาต่างๆ มีความต่อเนื่องกัน ไม่สะดุด ขาดตอน

อย่างไรก็ตาม เมื่อฟังเสียงสะท้อนจากสังคมหลายๆ ด้าน ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กระบวนการปฏิรูปของรัฐบาลอย่างหลากหลาย ส่วนใหญ่ยังมีความสงสัย ไม่เข้าใจ อีกทั้งผลงานที่อ้างมานั้น จับต้องได้ก็มีให้เห็นน้อย

เมื่อเทียบระยะเวลาดำเนินการมาถึง 4 ปี

จริงอยู่ รัฐบาลอาจมองว่าหลังจากรัฐประหาร สามารถทำให้สถานการณ์บ้านเมืองมีแต่ความสงบสุข ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวายใดๆ ตลอดจนการชุมนุมประท้วงเหมือนรัฐบาลที่ผ่านๆ มา

แต่จริงๆ แล้ว ภายใต้ความสงบอย่างราบคาบนี้ เป็นผลมาจากการใช้กฎหมายที่เข้มงวด การให้อำนาจเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวางเกินขอบเขต ขณะเดียวกันก็ละเมิดสิทธิเสรีภาพ กดทับประชาชนเอาไว้

แผนการปฏิรูปต่างๆ ที่ดำเนินการมา จึงเป็นการทำกันเอง คิดกันเอง โดยกลุ่มบุคคลที่รัฐวางตัวไว้ ขณะที่ภาคประชาสังคม ชุมชน และประชาชนกลับไม่ได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นและรับรู้ใดๆ

จึงทำให้ไม่ความคืบหน้าไปถึงไหน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน