การออกมาปกป้อง เบส อรพิมพ์ โดย “2 พ.อ.”แห่งคสช.และกองทัพบก

เหมือนกับเป็น “ความจำเป็น”
เพราะหากไม่จำเป็น 1 พ.อ.คงไม่ออกมา “แถลง”ติดต่อกันถึง 2 วัน
ในความเก่ง ในความกล้าของ เบส อรพิมพ์
การที่บทสรุปใน “กระสวน” เดียวกันได้รับการขยายและเผยแพร่จาก “ลูกคู่”ที่เป็นนักพูดและนักจัดรายการ
เท่ากับเป็น “รายรับ” อันทรงความหมาย
เป็นรายรับที่ เบส อรพิมพ์ ได้ไปเต็ม-เต็ม เน็ต-เน็ตในสถานะแห่ง “นักพูดสร้างแรงบันดาลใจ” เป็นรายรับที่ “คสช.”และกองทัพให้หลักประกัน
หลักประกันของ”เครือข่าย” ที่สัมพันธ์และอาศัยไหว้วาน
ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะ “นักพูด” ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะ “พิธีกร” ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะ “คอลัมนิสต์”
คำถามก็คือ “รายรับ” นี้ คสช.และกองทัพมี”รายจ่าย”หรือไม่

ในโลกนี้ไม่เคยมี “การประกอบการ”ใดที่จะมีแต่ “รายรับ”เพียงอย่างเดียว
ระบบบัญชียังต้องมี 2 ช่อง
ช่อง 1 คือ รายรับ เป็นกระบวนการที่ได้เข้ามา ช่อง 1 คืออยู่คู่ขนานกัน คือ รายจ่าย เป็นกระบวนการที่ต้องเสียไป
ในกรณีของ เบส อรพิมพ์ ก็มิได้ยกเว้น
คำถามที่เสนอเข้ามาก็คือ ทำไมคสช. ทำไมกองทัพ จึงออกแรงปกป้อง คุ้มครอง เบส อรพิมพ์ มากถึงเพียงนี้
เป็นเพราะเธอเก่ง เป็นเพราะเธอกล้า หรือ
เหตุผล 1 อาจเป็นเพราะ “สายสัมพันธ์” ที่มีอยู่ระหว่าง เบส อรพิมพ์ กับ คสช.และกองทัพ
มิใช่สายสัมพันธ์ที่เคย”ว่าจ้าง”อย่างเดียว
ประเด็นอยู่ที่ว่า เป็นการ”ว่าจ้าง” อย่างไร ลึกซึ้งเพียงใด

ใครที่ติดตามเว็บเพจของ เบส อรพิมพ์ ก็จะประจักษ์ในสายสัมพันธ์ที่คสช.และกองทัพมีอยู่
จาก”ภาพถ่าย” มีความเด่นชัด
เป็นภาพถ่ายของเธอกับอดีตเสนาธิการทหารบกท่านหนึ่งซึ่งอยู่ในฐานะ “เลขาธิการ”ของ”คสช.”
เป็นภาพถ่ายของอดีตแม่ทัพภาคที่ 2
เป็นภาพถ่ายของเธอก่อนหรือหลังการเดินทางโดย”เฮลิคอป เตอร์”ของกองทัพ
นี่คือ ความสัมพันธ์อันแนบแน่น
ไม่ว่าจะมองในเชิง “อุดมการณ์” ไม่ว่าจะมองในเชิง “ผู้จ่ายเงิน” กับ “ผู้รับเงิน”
“รูปธรรม”เหล่านี้ผลักรุนให้ คสช.และกองทัพต้องออกมาสำแดง “ปฏิบัติการ” เพื่อยืนยันความเป็นคนเก่ง ความเป็นคนดีให้กับ เบส อรพิมพ์
ในอีกด้านจึงเท่ากับ คสช.และกองทัพออกมาปกป้องตนเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน