บทบรรณาธิการ
ช่วงเวลาของการรำลึกเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองยังคงเข้มข้นต่อเนื่องในสัปดาห์นี้
สำหรับวันที่ 21 พฤษภาคมมีความสำคัญในฐานะวันสุดท้ายของการดิ้นรนรักษาระบอบประชาธิปไตยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว
หลังจากเริ่มมีสัญญาณประกาศกฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร และจัดตั้งกองอำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย วันที่ 20 พ.ค.2557
เป็นการพลิกท่าทีเดิมว่าทหารจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองและจะเป็นคนกลางการเจรจากันของตัวแทนของกลุ่มความขัดแย้งทางการเมืองหลายฝ่าย
แต่เหตุการณ์กลับลงเอยแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด โดยไม่ผ่านกระบวนการฟังเสียงส่วนใหญ่ของคนในประเทศ
วันที่ 21 พ.ค. ยังเป็นช่วงครบรอบความสะเทือนใจในเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองเมื่อ 8 ปีก่อน
หลังมีการใช้กำลังทหารสลายการชุมนุม วันที่ 19 พ.ค. กระทั่งเช้าวันต่อมามีการพบร่าง ผู้เคราะห์ร้าย 6 คนเป็นพลเรือนไร้อาวุธภายในวัดปทุมวนาราม
ส่วนวันที่ 21 พ.ค.2553 เป็นวันที่ทหารยกกำลังเข้าไปตรวจค้นในวัดซึ่งเป็นเขตอภัยทาน อีกทั้งยังระบุว่าตรวจพบอาวุธภายในวัด
แต่ต่อมาในปี 2556 ศาลอาญากรุงเทพใต้ สรุปประเด็นการตรวจยึดอาวุธในวัดปทุมวนาราม ว่าไม่น่าเชื่อว่ามีการตรวจยึดจริง และไม่ปรากฏว่ามีชายชุดดำอยู่ในบริเวณดังกล่าว
อีกทั้งยังมีคำสั่งชี้สาเหตุการเสียชีวิตของทั้ง 6 ศพ ว่าถึงแก่ความตายโดยการถูกยิงด้วยกระสุนปืน ขนาด .223 จากเจ้าหน้าที่
ปัจจุบันคดีดังกล่าวและคดีอื่นๆ ในเหตุการณ์นี้ยังค้างคาอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
เรื่องที่น่าเศร้าใจสำหรับวาระวันครบรอบที่เวียนมานี้ก็คือความยุติธรรมที่ยังไม่มาถึงญาติผู้สูญเสีย และความสุขที่ยังไม่ถึงประชาชน
แม้รัฐบาลจะมีอายุครบ 4 ปีได้ด้วยเงื่อนไขที่จัดการเองทั้งหมด แต่ก็ไม่อาจแสดงผลงานได้ว่าอำนาจที่นำไปใช้บริหารและตัดสินใจแทนประชาชนนั้นได้สร้างเศรษฐกิจและการเมืองที่กระจายความสุขอันเท่าเทียมเป็นที่ยอมรับ
ความอึดอัดใจเมื่อ 4 ปีก่อน และ 8 ปีก่อนของวันที่ 21 พ.ค. ที่เวียนมาในพ.ศ.2561 แทบไม่แตกต่างกัน