องค์ประกอบพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รพช.) เด่นชัดอย่างยิ่ง ว่าเป็นการผนึกร่วมระหว่าง 2 กลุ่มการเมืองใหญ่ที่มีบทบาทและส่งผลสะเทือนเป็นอย่างสูงต่อสังคมไทยในห้วงกว่า 1 ทศวรรษ
1 คือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
1 คือ มวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไปสู่ประชาธิปไตยอันสมบูรณ์
รูปธรรมแห่งการส่งผลสะเทือนคืออะไร
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยนำไปสู่การรัฐประหารในเดือนกันยายน 2549 มวลมหาประชาชนฯนำไปสู่รัฐประหารในเดือนพฤษภาคม 2557
ก่อความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวงในทางการเมือง
ความสำเร็จที่ไม่เพียงแต่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเท่านั้นที่ยืนยันและกล่าวอ้าง หากแต่มวลมหาประชาชนฯ ก็เน้นย้ำอย่างหนักแน่น
นั่นก็คือ บดขยี้อำนาจของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
ทำให้ นายทักษิณ ชินวัตร ต้องกลายเป็นบักน่อยตุหรัดตะเหร่ ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องกลายเป็นอีหล่าตุหรัดตุเหร่เช่นเดียวกับพี่ชาย
ขณะเดียวกัน คำถามที่ตามมาก็คือ เมื่อเป็นผลสำเร็จเหตุใดทั้งพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและมวลมหาประชาชนฯจึงต้องมาเหน็ดเหนื่อยจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทยอีกเล่า
ตรงนี้แหละคือคำตอบสะท้อนให้เห็นว่า ที่คิดว่าเป็นชัยชนะยังมิได้เป็นชัยชนะอย่างแท้จริง
การสานต่อและยกระดับชัยชนะจึงมีความจำเป็น
เมื่อมาถึงตรงนี้ก็มีคำถามตามมาอีกว่า พรรคการเมืองที่ประกาศ เจตนารมณ์ในการต่อต้าน พรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทยก็มีอยู่ เหตุใดไม่ไปร่วมกับพรรคนั้น
ทำไมจึงต้องแยกตัวออกมาจัดตั้งพรรคใหม่จะมิทำให้ขาดการรวมศูนย์พลังไปหรอกหรือ
นี่คือโจทย์ใหม่ในทางการเมือง
เป็นโจทย์ไม่เพียงแต่ต่อ”พรรคการเมืองเก่า”หากยังต่อ”พรรคการเมืองใหม่”
จำเป็นต้องตอบก่อน”เลือกตั้ง”
