มูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าและศูนย์การสยามพารากอน จะจัดนิทรรศการ “บรมกษัตริยาธิราช” แสดงเรื่องราวในหลวง รัชกาลที่ 9 ตั้งแต่เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องกับวังสระปทุม ซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 5-18 ธ.ค. ที่ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ผู้สนใจเข้าชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
วังสระปทุมเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย เมื่อในหลวงรัชกาลที่ 8 และรัชกาลที่ 9 เสด็จฯ พร้อมสมเด็จพระบรมราชชนก และสมเด็จพระบรมราชชนนี จากสหรัฐอเมริกานิวัติประเทศไทย ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
“เมื่อทรงพระเยาว์ ทุกวันจะเสด็จฯ เฝ้าสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กระทั่งเสร็จฯ ไปศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อเสร็จฯ นิวัติกลับมาอีกครั้งเมื่อ 11 พรรษา และทรงประทับที่พระตำหนักสวนจิตรลดา ก็ยังคงเสร็จฯ มาเฝ้าสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้าทุกวัน ในหลวง ร. 9 รับสั่งว่า รู้จักประเทศไทยเพราะสมเด็จย่าทรงสอน
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทูลถามในหลวง ร. 9 ครั้งเมื่อทรงพระเยาว์ทรงจำอะไรได้บ้าง มีรับสั่งว่า “ของเล่นก็เอาเศษไม้มาต่อกันเป็นรถลาก” จะเห็นได้ว่าทรงมีพระอุปนิสัยที่ไม่สุรุ่ยสุร่าย สำหรับมุมโปรดของในหลวง ร.9 ทรงโปรดทุกมุม เพราะวังสระปทุมคือบ้านที่มีความรักความอบอุ่น ซึ่งในงานนี้ได้จำลองภาพโฮโลแกรม 3 มิติของรถเข็นที่ทรงเล่นเมื่อครั้งยังทรง พระเยาว์ด้วย ” ชวลีกล่าว
นอกจากนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พระราชทานสำเนาเอกสารพระราชสาส์นและสารแสดงความเสียใจมาจัดแสดงให้ประชาชนทั่วไปเข้าชม ซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน อาทิ พระราชสาส์นของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินี จากญี่ปุ่น สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก จากภูฏาน เป็นต้น
ชวลี อมาตยกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า กล่าวว่า แสดงถึงความรักของพ่อแม่ที่มีต่อลูก และพระพันวัสสาฯ ที่มีต่อสมเด็จย่า เมื่อสมเด็จพระบรมราชชนกสิ้นพระชนม์ พระพันวัสสาฯ ได้ให้เกียรติสมเด็จย่าในการดูแลบุตรโดยไม่ยุ่งเกี่ยว และสมเด็จย่าให้เกียรติพระพันวัสสา ด้วยการแจ้งการเลี้ยงดู ผ่านไปยังจดหมายกราบบังคมทูล รวมถึงความรักของในหลวง ร.9 ที่มีต่อประชาชน ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่ทรงครองราชย์
ภายในงานนิทรรศการจะแบ่งออกเป็น 4 ภาค ได้แก่
ปฐมนิวาสราชสถิต ภาคแห่งการแสดงพระราชประวัติ พระราชจริยาวัตร เมื่อครั้งทรงพระเยาว์ในส่วนที่เกี่ยวเนื่องด้วยวังสระปทุมซึ่งเป็นที่ประทับแห่งแรกในประเทศไทย
พิพิธราชกรณีย์ เป็นภาคที่ประกอบด้วยเรื่องการปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการที่ยังประโยชน์แก่ประเทศและปวงชนชาวไทยตลอดจนมนุษยชาติ
ราชสดุดีสรรพสกล ภาคแห่งสาระเกี่ยวกับการถวายราชสดุดี
และ มหาภูมิพลปรมานุสาสน์ ภาคแห่งการประมวลพระราชดำรัส และพระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่พสกนิกร
นิทรรศการครั้งนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร พระราชทานสำเนาเอกสารพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยกษัตริย์ และสารแสดงความเสียใจจากผู้นำประเทศทั่วโลก มาจัดแสดงให้ชม ซึ่งไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน
อาทิ พระราชสาส์นของสมเด็จพระจักรพรรดิและสมเด็จพระจักรพรรดินีญี่ปุ่น พระราชสาส์นสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ภูฏาน เป็นต้น
สำหรับผู้ร่วมงานจะได้รับแจกโปสการ์ดพระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ร.9 ทรงเครื่องแบบกษัตริย์เต็มยศในวันพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษกเสด็จขึ้นครองราชย์ ด้านหลังโปสการ์ดน้อมนำพระบรมราโชวาทในวันที่ 4 ธันวาคม 2538 ซึ่งเป็นปีที่ในหลวง 9 ทรงสูญเสียพระบรมราชชนนี ความว่า “ทุกคนเกิดมาแล้วก็ต้องตาย ตายแล้วแม่สั่งไว้ว่าอย่าร้องไห้ แต่ขอให้ทุกคนทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด” โดยจะแจกให้กับผู้ร่วงงานทุกวัน วันละ 9,999 ภาพ รวม 1.4 แสนใบ
