กรณีวัดพระธรรมกาย กรณีพระธัมมชโย กำลังเป็นเครื่องทดสอบอย่างสำคัญยิ่งต่อความศักดิ์สิทธิ์ของ 2 หน่วยงาน

1 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ
1 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เพราะ “ความพยายาม” ในเรื่องนี้มิได้เป็นเรื่อง “ใหม่” หากเป็นเรื่องเก่าอย่างยิ่ง
เก่าอย่างชนิด “ค้างปี”
ยิ่งหากประเมินจากที่ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษและสำนักงานตำรวจแห่งชาติยืนยัน
มีหมายจับอยู่ในมือ 3 หมายจับ
แต่จากปี 2558 ต่อเนื่องมายังปี 2559 ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังไม่สามารถ “จับ”ได้ตามที่ต้องการ
สะท้อนว่า”วัดพระธรรมกาย” ไม่ธรรมดา สะท้อนว่า”พระธัมมชโย”ไม่ธรรมดา
ดำเนินไปอย่าง”ท้าทาย”

ไม่ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต่างยอมรับตรงกันว่า
กรณี “วัดพระธรรมกาย”มากด้วยความ”ละเอียดอ่อน”
ขณะเดียวกัน กรณี “พระธัมมชโย” ยิ่งมากด้วยความสลับซับ ซ้อน
ละเอียดอ่อนเพราะสัมพันธ์กับ”ศาสนิก”
ดังที่กรมสอบสวนคดีพิเศษกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคยสนธิกำลังและร่วมมือกัน
บุกจะเข้าไป “ตรวจค้น” และ”จับกุม”ตัวเมื่อปีที่แล้ว
ปรากฏว่า คณะศิษยานุศิษย์จำนวนหมื่น จำนวนแสนต่างออกมาแสดงพลัง
กระทั่ง ไม่สามารถฝ่า”กำแพง”มนุษย์เข้าไปได้

จึงมีความเด่นชัดอย่างยิ่งว่า กำแพงแห่งมนุษย์ของ “ศิษยานุศิษย์” ที่แวดล้อมอยู่กับ “วัดพระธรรมกาย” คือ ปราการสกัดและขัดขวาง
ขณะเดียวกัน หากมองจากมุมของ “วัดพระธรรมกาย” ก็ยืนยันว่า มิได้สกัดและขัดขวาง หากพร้อมจะให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี
“กำแพง” ที่ว่าคือ กำแหงแห่ง”ศรัทธา”
สะท้อนความศรัทธาที่คณะศิษยานุศิษย์มีต่อ “วัดพระธรรม กาย” และมีต่อ “พระธัมมชโย”
เมื่อประสบกับ “สภาพ” เช่นนี้จึงลำบาก
ลำบากและยากยิ่งที่ไม่ว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ ไม่ว่าสำนัก งานตำรวจแห่งชาติ จะสามารถ “หักหาญ” อย่างรุนแรงและแข็งกร้าว
ตรงนี้แหละคือสภาพที่เรียกว่า “ละเอียดอ่อน”
ตรงนี้แหละที่เรื่องของ “คดีความ” จะถูกแปรให้กลายเป็นประเด็นในทาง “การเมือง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน