แม้จะสัมผัสได้ถึงความคึกคักของ “ดีเอสไอ” แม้จะสัมผัสได้ถึงความคึกคักของ “ตำรวจ”

แต่ก็ยังมี “คำถาม”
คำถามว่า “ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”จะเอาจริงแค่ไหนกรณีเกี่ยวกับ พระธัมมชโย
คำตอบก็คือ “เอาจริง”
ขณะเดียวกัน หากติดตามกระบวนท่าของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง ประสานกับกระบวนท่าของ พล.ต.ต.ชัยพล ฉัตรชัยเดช
ก็จะเพิ่ม “ความมั่นใจ”
เหมือนกับว่าจะมากด้วย “ความเงียบ” ไม่ว่าจะจาก”ดีเอสไอ” ไม่ว่าจะจาก”ตำรวจ”
แต่ภายใน”ความเงียบ”กลับ “น่าสนใจ”
เพราะว่ามิได้เป็นความเงียบในลักษณะ “นิ่งเฉย” ตรงกันข้าม กลับเป็นความเงียบในลักษณะ “เตรียมพร้อม”
เตรียมพร้อม “รุก” เตรียมพร้อม “จัดการ”

บทเรียนที่ทั้ง “ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”สรุปจากที่เคยปฏิบัติการเมื่อเดือนมิถุนายน แล้ว “ล้มเหลว”
มีค่า ทรงความหมาย
ก็เหมือนอย่างที่ นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษ ฝ่ายการสอบสวน 8
ยอมรับในความเป็นจริง
“สิ่งที่หวั่นที่สุด คือเกรงจะเกิดความรุนแรง ไม่ต้องการให้เกิดการกระทบกระทั่งและใช้ความรุนแรง”
กลยุทธ์ที่ใช้ออกจึงเป็นกลยุทธ์ “การเมือง”นำ”การทหาร”
เห็นได้จาก พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช เล่นบทเจรจา หารือด้วยความนิ่มนวล ขอความร่วมมือให้ออกมามอบตัว
เล่นบท “การทูต” ก่อน”ปฏิบัติการ”

การเล่นบท การเมือง”นำ”ของทั้ง”ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”เป็นการเล่นทั้งๆที่มีความชอบธรรม
ชอบธรรมทั้งทาง”การเมือง”และทาง”กฎหมาย”
ทางกฎหมาย ไม่เพียงแต่มี “หมายจับ” หากเป็นหมายจับที่มากถึง 3 หมาย
เป็นการออกตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคมมาแล้ว
ทั้ง “ดีเอสไอ”และทั้ง”ตำรวจ”จึงย่อมมีความชอบธรรมด้วยประการทั้งปวง
กล่าวในทาง “การเมือง”ก็สะสม บ่มมายาวนาน
“ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”กุมเสียงสนับสนุนจาก “สื่อมวลชน”ได้อย่างรอบด้าน
“สื่อ”ที่เห็นด้วยกับ “รัฐประหาร” อยู่ข้าง
“มวลชน”ที่เห็นด้วยกับ”รัฐประหาร”ไม่ว่าเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ก็พร้อมจะเป็น “กองหน้า”ใน การเคลื่อนไหวหนุนเสริม
กำหนด “เส้นตาย” ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน จึงมีความ”สำคัญ”
เพียงแต่เมื่อเอยก็เมื่อนั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน