การออกคำสั่งนายกรัฐมนตรีให้คืนตำแหน่งให้นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 4 รายเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกว่าการเลือกตั้งท้องถิ่นน่าจะใกล้เข้ามา และน่าจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งทั่วไปที่ประกาศไว้ว่าจะเป็นเดือนกุมภาพันธ์ 2562

บุคคลในรัฐบาลเห็นว่า ขณะนี้ผู้นำท้องถิ่นทั่วประเทศน่าจะครบวาระหมดแล้ว จึงน่าจะเริ่มที่การเลือกตั้ง อบจ. และการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.)

ดังนั้นมีผู้เห็นว่าการคืนตำแหน่งสำหรับผู้ไม่มีความผิดจึงควรต้องเร่งทำเพื่อรองรับสู่การ เลือกตั้งท้องถิ่น

บางคนตั้งข้อสังเกตด้วยว่า การขยับคืน ตำแหน่งอบจ.ครั้งนี้ อาจเป็นการเตรียมพร้อมของรัฐบาลคสช.สู่การเลือกตั้งใหญ่โดยใช้นักการเมืองท้องถิ่นเป็นฐานเสียงหรือไม่

สําหรับการคืนตำแหน่งนายกอบจ.ทั้ง 4 คน เป็นผลมาจากการตรวจสอบแล้วว่ารายหนึ่งไม่มีความผิด รายหนึ่งมีความผิดเล็กน้อย สมควรแค่ตักเตือน รายหนึ่งศาลยกฟ้อง และรายสุดท้ายเป็นการกระทำผิดก่อนหน้านี้จนหมดวาระ

การคืนตำแหน่งก็จะมีอำนาจเต็มเหมือนเดิมทุกอย่าง และจะได้รับการขยายวาระการดำรงตำแหน่งต่อไปเหมือนนายกอบจ.คนอื่นๆ

ไม่ว่าการคืนตำแหน่งดังกล่าวจะเป็นผลโยงไปถึงการเลือกตั้งใหญ่หรือไม่ แต่อย่างน้อยนอกเหนือจากการคืนตำแหน่งแล้ว บุคคลที่ได้รับสิทธิคืนตำแหน่งนี้ควรได้รับการเยียวยาด้วย

เพราะระยะเวลาที่ถูกตรวจสอบข้อ กล่าวหานั้น ถือเป็นช่วงที่เสียชื่อเสียงและ เสียโอกาส ขณะได้รับผลกระทบทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคม

จากข้อมูลของทางการ ยังมีเจ้าหน้าที่ของรัฐคนอื่นๆ ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาถึงกว่า 300 คน ส่วนผู้ที่ได้รับการคืนตำแหน่งไปแล้วมีอยู่หลายสิบคน

ทั้งนายกอบจ. นายกอบต. นายกเทศมนตรี และข้าราชการจำนวนมากที่ถูกคำสั่งพักงานอยู่ บางคนถูกพักงานมาเกือบ 3 ปี

การได้โอกาสพิสูจน์ตัวเองก่อนการเลือกตั้งท้องถิ่น จึงน่าจะเป็นเรื่องดี

นอกจากรัฐบาลควรเร่งขั้นตอนพิสูจน์ให้ทันการเลือกตั้งแล้ว ยังควรต้องหามาตรการฟื้นฟูเยียวยาให้บุคคลที่ไม่มีความผิดด้วย

เพื่อให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า คำสั่งพักงานไม่ใช่การใช้อำนาจโดยไม่ต้องชดเชย หรือทำเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน