คำปฏิเสธของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต่อกรณีข่าวอดีตส.ส.และนักการเมืองชื่อดังจะเข้าร่วมกับพรรคพลังประชารัฐว่า

“ผมไม่รู้”

เป็นคำปฏิเสธที่เข้าใจได้ แม้ว่าจะดำรงตำแหน่งเป็นรองหัว หน้าคสช. และรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ก็ตาม

“ไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ” ย่อมเป็นเหตุผลที่หนักแน่นจริง จังอย่างที่สุด

เพราะเมื่อไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐก็ย่อมไม่รู้

แม้ว่าการดำรงอยู่ของพรรคพลังประชารัฐจะวนเวียนอยู่โดยรอบคสช.และคนในรัฐบาล

แม้ว่าคำตอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะทำให้”คำถาม”ที่เสนอขึ้นมาอยู่ในวังวนของ “ข่าวลือ”

แต่นั่นก็มิได้เป็นข่าวลืออันเลื่อนลอย

อย่างน้อยภายหลังการพบและสนทนากับรัฐมนตรีบางคนระหว่างครม.สัญจรที่นครสวรรค์ นายอนุชา นาคาศัย ก็ยืนยัน

“จะมีข่าวใหญ่เร็วๆนี้”

อย่างน้อยก่อนหน้านี้ นายภิรมย์ พลวิเศษ ก็นำรายชื่ออดีตส.ส.จำนวนกว่า 60 คนยืนยันว่าเป็นผู้ที่พร้อมจะเข้าร่วมพรรคพลังประชารัฐ

โดยเป็นการแสดงความจำนงผ่าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

เมื่อเอ่ยชื่อของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คนก็โยงไปยัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

รวมถึงอดีตรัฐมนตรีบางคนที่เคยอยู่”พรรคไทยรักไทย”

ตรงนี้แหละที่นำไปสู่คำถามต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ในฐานะที่เป็นรองหัวหน้าคสช.จึงน่าจะรู้เรื่องของพรรคพลังประชารัฐ

ณ วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อาจไม่รู้ แต่เมื่อใดที่พรรคพลังประชารัฐเปิดตัว เปิดรายละเอียดของพรรค

เมื่อนั้นที่เป็น”ความลับ”ก็มิได้เป็น “ความลับ”

หากในที่สุดแล้ว นายสมศักดิ์ เทพสุทิน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายอนุชา นาคาศัย ต่างตบเท้าเข้าเป็นส่วนหนึ่งของพรรคพลังประชารัฐ

“ข่าวลือ”ในอดีตก็กลายเป็น”ความจริง”ในปัจจุบัน

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน