คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

คณะรัฐมนตรีประชุมเป็นวาระพิเศษเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2559 มีมติแจ้งเรื่องการสถาปนาแต่งตั้งพระรัชทายาท ขึ้นเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบสันตติวงศ์ ต่อประธานสนช.

ระบุว่า พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าฯให้ตั้งการพระราชพิธี เฉลิมพระนามาภิไธย พระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ เป็นสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2515 ท่ามกลางมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอนันตสมาคม

ดังลงประกาศไว้ชัดเจนในราชกิจจานุเบกษา ฉบับพิเศษในวันเดียวกัน เล่มที่ 89 ตอนที่ 200 ความว่า ทรงอยู่ในฐานะที่จะรับราชสมบัติปกครอง ราชอาณาจักรสืบสนองพระองค์ต่อไป

เป็นสยามมกุฎราชกุมารพระองค์ที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

ต่อมา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรียกประชุมเป็นพิเศษ เพื่อดำเนินการตามมาตรา 2 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบกับมาตรา 23 รัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ความว่า

กรณีที่ราชบัลลังก์หากว่างลงและเป็นกรณีที่พระมหากษัตริย์ได้ทรงแต่งตั้งพระรัชทายาทไว้ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ.2467 แล้วให้คณะรัฐมนตรีแจ้งให้ประธานรัฐสภาทราบ และให้ประธานรัฐสภาเรียกประชุมรัฐสภาเพื่อรับทราบ

และให้ประธานรัฐสภาอัญเชิญองค์พระรัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์สืบไป แล้วให้ประธานรัฐสภาประกาศให้ประชาชนทราบ

จนเมื่อเวลา 11.19 น. ประธานสนช.จึงประกาศว่าจะกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรม โอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์เป็น “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10”

ยังความปีติปลาบปลื้มแก่พสกนิกรอย่างหาที่สุดมิได้

ขั้นตอนจากนี้ต่อไป ประธานสนช.จะเข้าเฝ้าฯนำความกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบสันตติวงศ์ เป็นพระเจ้าอยู่หัวของประชาชนชาวไทยสืบไป

ในโอกาสอันเป็นอุดมมงคลยิ่งนี้ ประชาชน ชาวไทยทุกหมู่เหล่าต่างถวายพระพรชัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ที่จะขึ้นสืบราชย์โดยพร้อมเพรียงกัน

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน