บทบรรณาธิการ
ผลงานหนึ่งของรัฐบาลชั่วคราวที่มีอายุการทำงานมา 4 ปี ส่วนที่เด่นชัดกว่าคำประกาศจะปฏิรูป คือการสานต่อโครงการที่รัฐบาลชุดก่อนๆ ริเริ่มไว้และเห็นว่าเป็นผลดีต่อประชาชน
ล่าสุดเป็นการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ 8 หรือ แอคเมคส์ ซัมมิต ร่วมกับประเทศสมาชิกอื่นๆ ในภูมิภาค ได้แก่ กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม
หลังจากรัฐบาลไทยเมื่อปี 2546 เป็นผู้ริเริ่มก่อตั้งแอคเมคส์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและสร้างความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจร่วมกันกับชาติเพื่อนบ้าน และส่งเสริมการรวมตัวกันของอาเซียน
ส่วนรัฐบาลปัจจุบันหวนกลับมาเป็นเจ้าภาพการประชุมกลุ่มความร่วมมือนี้เป็นครั้งที่ 2 และสานต่อแนวทางเดิมไว้
นอกจากงานระหว่างประเทศ รัฐบาลชุดนี้ยังสานต่อโครงการสำคัญในประเทศด้วย โดยเฉพาะโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค และโครงการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง
ในส่วนของกองทุนหมู่บ้าน เพิ่งได้รับการจัดงบประมาณในปี 2561 วงเงิน 20,000 ล้านบาท กองทุนหมู่บ้านละไม่เกิน 300,000 บาท
การที่รัฐบาลที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งสานต่อโครงการของรัฐบาลเก่าที่มาจากการเลือกตั้งซึ่งเริ่มต้นไว้เมื่อปี 2544 จนมีสมาชิกถึง 13 ล้านคน แสดงถึงการยอมรับความสำเร็จของโครงการนี้ ว่าเป็นการกระจายอำนาจและกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แม้ว่ากองทุนหมู่บ้านไม่ได้สำเร็จไปทุกชุมชน แต่ก็แสดงให้เห็นว่า เปิดช่องให้ประชาชนมีส่วนร่วมกำหนดการใช้งบประมาณ จัดระบบบริหารจัดการเงินกองทุนหมุนเวียนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองกันเอง ตามความต้องการของชุมชนที่รู้ว่าจะใช้เงินเพื่ออะไร
เป็นการยอมรับว่า ประชาชนคิดเองและตัดสินใจเองได้
ในช่วงที่การเลือกตั้งมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ในต้นปี 2562 จึงน่าจะเป็นโอกาสของพรรคการเมืองต่างๆ ที่จะนำเสนอนโยบายที่นำไปสู่การปฏิบัติจริงได้
รวมถึงนโยบายที่พรรคการเมืองแสดงให้เห็นว่าจะให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคิดและตัดสินใจได้อย่างแท้จริง