หากติดตามกรณี “ธรรมกาย” อันมาจากดีเอสไอและตำรวจอย่างต่อเนื่องจะเห็นสภาวะอันเรียกได้ว่า”เคลื่อนไหว” และ “ไม่หยุดนิ่ง”

แม้กระทั่ง การยื่น “คำขาด” โดยกำหนดผ่าน “เส้นตาย”ก็ดำเนินไปตามความเป็นจริงนี้
เบื้องต้นคือ ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน
เป็นคำขาดอันมาจากปากของ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง กับปากของ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล
เป็นผล “การหารือ” เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน
เป็นการหารือระหว่าง พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช กับ พระราชภาวนาจารย์ ณ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี
นั่นก็คือ “คำขาด” นั่นก็คือ “เส้นตาย”
เมื่อผ่านวันที่ 30 พฤศจิกายนมา “คำขาด”และ”เส้นตาย”ใหม่ ก็ปรากฏขึ้น
เป็นภายในวันที่ 2 ธันวาคม
การเปลี่ยนจาก “30 พฤศจิกายน” มาเป็น “2 ธันวาคม” สะท้อนสภาวะการเคลื่อนไหว สภาวะไม่หยุดนิ่ง
แม้กระทั่ง “คำขาด”อันเป็น”เส้นตาย”

ทั้งหมดนี้คือ “กระบวนท่า” คือจังหวะและขั้นตอนอันกำหนดไว้ใน “ยุทธการ”
ระหว่าง “ดีเอสไอ” กับ “ตำรวจ”
ภายในวันที่ 30 พฤศจิกายน คือ การให้เวลา พระธัมมชโย ออกมามอบตัว ครั้งที่ 1
เมื่อไม่ออกมาก็ “ยืดหยุ่น”และให้เวลาอีกระยะหนึ่ง
เหมือนกับว่า “คำขาด” ซึ่งกำหนด “เส้นตาย”ใหม่ภายในวันที่ 2 ธันวาคม จะยังคงยืนอยู่ในข้อเรียกร้อง “เดิม”
นั่นก็คือ ให้พระธัมมชโย “มอบตัว”
แต่ “คำขาด”อันเป็น “เส้นตาย”นี้จะไม่เหมือนเดิมกับที่กำหนดในวันที่ 30 พฤศจิกายนอีกแล้ว
คำถามก็คือ ขั้นตอน”ใหม่”จะเป็นอย่างไร

ต้องยอมรับว่าขั้นตอนจากวันที่ 25 พฤศจิกายน จนถึงวันที่ 2 ธันวา คม ดำเนินไปอย่างมี “เป้าหมาย” อันเด่นชัด
1 เป็นเป้าหมายเพื่อสะสม “ข้อมูล”
1 เป็นเป้าหมายเพื่อเปิดโอกาสให้ทางฝ่าย”วัดธรรมกาย”ได้เปิดเผยตัวตนออกมา
สัมผัสได้ผ่าน “คณะศิษยานุศิษย์”
สัมผัสได้ผ่าน พระราชภาวนาจารย์ รักษาการเจ้าอาวาส สัมผัสได้ผ่านสำนักสื่อสารองค์กร
1 ยืนยันข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับ พระธัมมชโย
จากนั้นก็นำไปสู่การขอ “หมายค้น” เพื่อยังความศักดิ์สิทธิ์ให้กับ “หมายจับ”
หลังวันที่ 2 ธันวาคม จะมี “ความแจ่มชัด”
เป็นความแจ่มชัดในการ”บุก” เป็นความแจ่มชัดในการ”รุก”
เข้าไปภายใน “วัดธรรมกาย”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน