ให้หลัง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ หลั่งน้ำตายอมตระบัดสัตย์ ประกาศกลับมาเล่นการเมืองเต็มตัว ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.)

สังคมต่างโฟกัสไปที่นายสุเทพว่าคือผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริง พร้อมๆ เสียงวิจารณ์ถึงความเหมาะสม และกระแสบวก-ลบที่มีต่อพรรค

เขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ โฆษกรปช. คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งสโมสรผู้นำเยาวชนพรรคและฝ่ายอำนวยการพรรค วัย 29 ปี ลูกชายนายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ แกนนำอีกคนของรปช.

มีความเห็นต่อเสียงวิจารณ์ และนำเสนอความเห็นทางการเมืองในฐานะคนรุ่นใหม่

รวมทั้งบอกเล่าเรื่องราวของพรรคหลังสุเทพหลั่งน้ำตา

การตัดสินใจร่วมหัวจมท้ายกับ รปช. เป็นเพราะพ่อชักชวน

คนชอบหาว่าพ่อ(นายเอนก) ชักชวน แล้วเรียกผมว่าลูกเอนก ให้เรียกกลับบ้างได้หรือไม่ว่าพ่อเขตรัฐ (หัวเราะ) และจริงๆ แล้วผมเป็นคนไปเรียกพ่อมา เพราะเข้าไปอยู่กับ รปช. ก่อนหลายเดือน เข้าไปเห็นโครงสร้าง ไปช่วยทำนานมาก ผมเป็นคนไปดึงพ่อเข้ามาเอง แล้วก็เห็นว่าเขาทำจริง เป็นคนรุ่นเราทั้งนั้นที่ทำงานจริงๆ พลังที่ใช้เคลื่อนไหวคือคนรุ่นเรา

ภาพที่เห็นว่ามีนักการเมือง อดีตนักการเมือง อดีตผู้มีบารมีทั้งหลายเข้ามาร่วมกับพรรค หลายคนไม่ได้เข้ามา เขาคัดกรองคนมาก บางคนอยู่เป็นพี่เลี้ยงให้คำแนะนำ แต่คนที่ทำงานจริงๆ คือพวกเรา กลุ่มยังบลัดเป็นผู้สร้างระบบ โดยมีพวกเขาให้คำแนะนำ

และยังบลัดไม่ได้หมายถึงแค่อายุ แต่เป็นคนที่ไม่เคยสัมผัสการเมือง แต่เห็นปัญหาแล้วรู้ว่าปัญหามันมี แต่ไม่ใช่แค่บ่นไปวันๆ แต่จะทำ คิดจะสู้ คิดจะเปลี่ยนแปลง โดยสร้างจากฐานเดิมที่มีอยู่ให้มันสูงขึ้นไป

เมื่อนายเอนกไม่ได้ชักชวน แล้วใครเป็นคนชักชวน

เมื่อ 3-4 เดือนที่แล้ว ตอนแรกได้ยินมาว่ามีกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งมีอุดมการณ์ มีเจตนารมณ์ต้องการปฏิรูป ตอนแรกที่ได้อ่านก็ตะขิดตะขวงใจจะเป็นไปได้หรือไม่ มันดูเลื่อนลอย ก็เลยเข้าไปเจอพวกเขาแล้วก็ได้รับคำอธิบายว่ามันเกิดจากการเข้าไปสัมผัสของจริง ไม่ได้เกิดจากการที่เราเสพจากสื่ออย่างเดียว

ถึงได้รู้ว่าผู้ใหญ่เหล่านี้ หรือคนรุ่นใหม่เหล่านี้ เขารับฟังเรา ทั้งที่เราเป็นแค่อาจารย์ อายุ 29 ปีเท่านั้น มีประสบการณ์การทำงานแค่ 3 ปี แต่พอเราพูดเขาฟังแล้วเขาเห็นด้วย เสียงของเราได้ถูกรับฟัง มีคนได้ยิน พูดแล้วยังขนลุก อันนี้ทรงพลัง ตอนนั้นลุงกำนัน (นายสุเทพ เทือกสุบรรณ) ผมยังไม่เจอหน้าเลย

และเหตุการณ์วันนั้นมันโดนใจขนาดที่ผมต้องลาออกจากอาจารย์ ยื่นใบลาออก ไม่รับเงินเดือนอะไรแล้วออกมาเลย ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะต้องทิ้งงานประจำที่มั่นคงและมีอนาคตมาสู่งานที่เรียกว่ เสี่ยงมาก ผมกล้าทิ้งตรงนั้นเพื่อมาทำตรงนี้ก็เพราะสิ่งที่สัมผัสมันทรงพลังจริงๆ

เส้นทางยังไปได้อีกยาว แต่ผมก็เลือกที่จะออกมา ทุกอย่างตามทฤษฎีนั้นรู้อยู่แล้วปัญหาคืออะไรแต่ก็ขอเลือกที่จะออกมาสัมผัส แก้ปัญหาแล้วเปลี่ยนแปลงมันเอง เพราะอยู่ตรงนี้จะทำอะไรได้มากกว่า

อุดมการณ์หรือจุดยืนอะไร ที่ทำให้ยอมทิ้งงานประจำเพื่อเข้าไปร่วมก่อตั้งพรรค

เป็นเพราะอุดมการณ์ทั้ง 7 ข้อของพรรคมันโดน ข้อแรกก็จงรักภักดีปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เทิดทูนเชิดชู ซึ่งเราเห็นกันแล้ว Bike For Mom หรือ Bike For Dad ถ้าไม่ใช่เพราะสถาบันก็ไม่เกิด ที่คนไทยจะได้มารวมตัวกันทำดี อีกอันที่ชัดเจนคือในหลวงรัชกาลที่ 9 เสด็จสวรรคต คนไทยออกมาทั้งประเทศทุกเชื้อชาติศาสนา ออกมาทำดีเพื่อพ่อ

ฉะนั้นความรู้สึกต่อสถาบันกับคนไทย คือ พ่อกับลูก ซึ่งเราสัมผัสได้ถึงพลัง ทันทีที่ทราบข่าวคนไทยร้องไห้ จะมีอะไรที่ขับเคลื่อนประชาชนได้มากกว่านี้อีก จะมีพลังอะไรที่รวมใจไทยได้มากกว่านี้อีก ส่วนตัวคิดว่าไม่มี เป็นต้นทุนทางวัฒนธรรมของไทยที่แข็งแกร่งที่สุด ดีที่สุด เยี่ยมที่สุด

ถัดมาคือการเมืองต้องเป็นการปกครองที่มีธรรมาธิปไตย ก็ยึดหลักธรรมจริยธรรม มีความเป็นธรรมและชอบธรรม ไม่มีใครที่ไม่ชอบความเป็นธรรม ต้องปกครองด้วยหลักธรรม นักการเมืองเข้ามาต้องทำเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมจริงๆ ไม่ใช่ส่วนตัว

นี่จะต้องเป็นสิ่งติดตัวรปช.ทุกคน เพราะฉะนั้น เราถึงต้องได้มีโรงเรียนทางการเมืองเพื่อปลูกฝังสิ่งเหล่านี้ตั้งแต่ต้น เราไม่ได้ทำกันสั้นๆ เพื่อมาแข่งกับใคร เราต้องการทำระยะยาวเพื่อทำให้เป็นสถาบันการเมืองของประชาชนจริงๆ

แม้เลือกตั้งครั้งนี้ก็ไม่ได้คาดหวังความสำเร็จว่าต้องได้เป็นส.ส. ผมคิดว่าหากทำพรรคนี้ให้เกิดได้ ทำให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปประเทศได้ ก็จะพอใจมากๆ จากใจจริง

นอกจากนี้ พรรคการเมืองเป็นของประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน ก็สอดคล้องกับธรรมาธิปไตย ที่ประชาชนเป็นผู้กำหนดนโยบาย เลือกกรรมการบริหารพรรค มีส่วนร่วมในทุกขั้นตอน อำนาจจริงจะอยู่ที่ประชาชน ตอนนี้จึงไม่อยากพูดเรื่องนโยบายอะไรมาก ต้องรับฟังก่อน

รปช.เพิ่มช่องทางนี้ขึ้นมา ปกติอยากร้องเรียนโทร.หา ผบ.ตร.โทร.ยากหรือไม่ โทร.ไปหานายกฯ เข้าไม่ถึง สมาชิกพรรคเองก็จะโทร.หานายกฯ แทบจะเป็นไปไม่ได้ รปช.ก็มี ACT Chat แอพพลิเคชั่นในการสื่อสาร ถ้าจะให้เปรียบเทียบก็จะมีหน้าตาคล้าย Line กับ What’s app? พิมพ์ปุ๊บถึงเลย

จะเป็นช่องทางให้สมาชิก ประชาชนเข้าถึงรปช. ได้ด้วยความรวดเร็ว เป็นนวัตกรรมเอาเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เสริมสร้างให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนอย่างแท้จริง เราไม่ได้พูดแค่ลมปาก เราทำ ACT Chat ขึ้นมาให้เห็น ตอนนี้ของใหม่พวกนี้เราใช้เวลาและทุ่มแรงไปเยอะกับของพวกนี้

ในฐานะคนรุ่นใหม่ที่กำลังจะลงสู่สนามการเลือกตั้ง มองความขัดแย้งและการเมืองไทยในตอนนี้อย่างไร

ไม่ใช่ผมไม่ชอบเสื้อแดง ผมคิดว่าบางเรื่องเสื้อแดงคิดถูก คิดว่าบางเรื่องเสื้อเหลืองคิดผิดด้วยซ้ำ ผมเป็นคนที่เป็นกลางจริงๆ เข้ามาเพื่อต้องการสร้างเยาวชนที่มีมุมมองโดยไม่ใส่แว่น ไม่มีสี

บางบทความคนเขียนถูกมองเป็นเสื้อแดง เขียนแล้วดีมาก แต่คนเสื้อเหลืองไม่อ่านเพราะเขาเห็นชื่อ เหมือนกันบทความคนเสื้อเหลืองเขียนแล้วดีมาก แต่คนเสื้อแดงไม่อ่านเพราะเขาเห็นชื่อ เพราะเราตาบอดสี เลยทำให้ไม่ฟังกัน เราอยู่ตรงกลางแล้วอึดอัด

ลองมองภาพดีๆ นายเอนก ก็ไม่ใช่เหลือง ไม่ว่าแดง-เหลือง แกก็คุยได้ แล้วจะเข้ามาเปลืองตัวทำไม ผมก็ไปดึงแกมาลำบาก (หัวเราะ) นี่คือคนเสียสละ แทนที่จะเห็นค่าเขา แต่กลับไปด่าเขาเละเทะไปหมด เพราะเราแตกแยกกัน ใช้ โซเชี่ยลมีเดียในการจั่วหัวข้อข่าว สร้างข่าวลือกันจากสังคมที่มีแต่ความสุขก็มีแต่ความทุกข์

ผมเบื่อการเมืองแบบปิงปอง ด่ากันไปด่ากันมา ล่าสุดผมพูดประโยคหนึ่งออกมา ฟางเส้นสุดท้ายก็เอาไปเล่น ผมเห็นใจคนเหล่านั้น ที่มองอะไรแล้วเห็นแต่ปัญหา อยากช่วยเขาให้มองเห็นด้านอะไรที่มันสวยงามของประเทศไทยบ้าง อยากจะช่วยเขาขจัดความเกลียดชัง ความคับแค้นออกไป

หน้าที่สโมสรผู้นำเยาวชนของพรรค ร่างพิมพ์เขียวการพัฒนาคนรุ่นใหม่ไว้อย่างไร

เราต่างรับรู้ปัญหาที่มีอยู่ทั้งระบบ ทุกคนรู้หมด แต่เราจะเข้ามาทำอะไรกับมันหรือเปล่า ถ้าพูดถึงรุ่นเราอีกแป๊บเดียวเราจะกลายเป็นรุ่นที่นำประเทศแล้ว แต่เรายังอยู่เฉยๆ กันอยู่เลย ยังบ่นกันอยู่เลย การจะทำให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนได้ เราต้องลุกขึ้นมาทำ

ในฐานะประธานสโมสรเยาวชนอยากให้ออกมาช่วยกันร่วมสร้างประเทศ ที่เรามีส่วนร่วมกันจริงๆ เรายังหาเยาวชนที่มีอุดมการณ์เดียวกันอยู่อีกเยอะ

ผมไม่ต้องการสร้างโลกที่มีแต่ความเกลียดชัง หรือปัญหา ที่ว่าเราเห็นแล้ววิ่งเข้าใส่กำแพงแล้วบ่นหรือว่า แต่ให้มาช่วยกันคิดกันว่าจะแก้อย่างไร แล้วมาช่วยกันทำทันที

ผมต้องการเปลี่ยนเยาวชนที่มีทัศนคติแบบนี้ อย่าไปมัวแต่กลัวว่าหลักการนี้จะทำไม่ได้ เดี๋ยวคนนี้จะว่า เดี๋ยวจะไปติดตรงนั้นตรงนี้ ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ ต้องทำเลย อย่าบ่นว่าขยะเต็มกรุงเทพฯ เห็นขยะก็เก็บไปทิ้งกันทันที ค่อยๆ ทำกัน

อยากให้เยาวชนคนไทยเริ่มมองเห็นความสวยงามของคนไทยที่มีอยู่ อยากให้ลองถอดแว่นตาที่เห็นแต่ความทุกข์ ความอยากลำบาก อะไรต่างๆ ที่ดูแล้วมีแต่ปัญหาออกไปก่อน แล้วลองมองว่าสังคมไทยยังมีอะไรที่สวยงามอยู่บ้าง

แม้จะบอกว่าคนรุ่นใหม่จะมาเป็นผู้ขับเคลื่อนรปช. แต่สังคมก็ยังมองว่านายสุเทพต่างหากที่อยู่เบื้องหลัง กังวลหรือไม่ที่จะถูกวิจารณ์แบบนี้

เขาวิจารณ์กันไปแล้ว แต่เขาไม่ได้มาเห็นภาพหรือสัมผัส มัวแต่มองน้ำตากำนัน กำนันตระบัดสัตย์ ส่วนที่พวกผมทำกันเหนื่อยมากมันจึงหายไปหมด สิ่งที่อยากให้มันออกมาสู่สังคมคือ การวางโครงสร้างของพรรคไม่ให้ถูกครอบงำ

เรากันนายทุนได้แล้ว จะคัดเฉพาะแต่คนที่มีอุดมการณ์เข้ามา แล้วในคณะกรรมการบริหารพรรคจะให้หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรค มีวาระการดำรงตำแหน่งเพียง 2 ปี เพื่อไม่ให้มีนักการเมืองมาควบคุมพรรคได้

ต่อไปคือกันนักการเมืองที่จะเข้ามาครอบงำด้วยกลไกคานอำนาจเอาไว้ภายใน ด้วยการให้มีสภาผู้ก่อตั้งที่จะมาจากสมาชิกผู้ร่วมจดจัดตั้ง จะมีคณะกรรมการด้านวินัยและจริยธรรม คอยทำหน้าที่ตรวจสอบความซื่อตรงของนักการเมืองในพรรค สำหรับถ่วงดุลกันเองภายในพรรคอีกชั้นหนึ่ง เพื่อให้เป็นพรรคของประชาชน ไม่มีใครมาครอบงำ

เช่น ผมเข้าสภาวันแรก ใส่นาฬิกา Seiko เรือนละ 3 พันกว่าบาท พอไปสักพักมาแล้ว Rolex Daytona เรือนละ 4-5 แสนบาท ก็จะแปลกแล้ว หรือขับรถเก่าๆ นั่งแท็กซี่มาทำงาน แต่พออยู่ไปกลายเป็นเบนซ์ สภาผู้ก่อตั้งก็จะทำหน้าที่

คนเป็นประธานก็ต้องเป็นคนที่ซื่อตรง ซื่อสัตย์สุจริตมากๆ ตอนแรกจะให้ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร เป็น แต่ติดปัญหาสุขภาพ ก็ต้องหาคนมาเป็น หาผู้ใหญ่ที่จัดการและได้รับความเคารพมาเป็นหัวสภานี้ เพื่อดุลอำนาจให้พรรคการเมืองเป็นของประชาชนจริงๆ

แต่เสียงเล่าเรื่องเหล่านี้ไม่ออกมาเลย พอโดนน้ำตาลุงกำนันเข้าไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน