โฆษกรัฐบาลแถลงปฏิเสธรายงานข่าวคณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการให้โควตาบำเหน็จประจำปี (2 ขั้น) นอกเหนือโควตาปกติกับเจ้าหน้าที่ คสช.จำนวน 600 คน
คำชี้แจงระบุว่า ครม.เพียงแค่รับทราบข้อเสนอของ คสช. เท่านั้น และให้ฝ่ายความมั่นคงและ คสช. กลับไปพิจารณาทบทวนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การพิจารณาให้บำเหน็จให้มีความเหมาะสมและเป็นธรรมอีกครั้งหนึ่งเท่านั้น
หากเป็นไปตามคำชี้แจงนี้ นับว่าน่าติดตามอย่างยิ่งว่าหลักเกณฑ์การพิจารณาจะเป็นอย่างไร
เพราะช่วงเวลานี้เป็นช่วงเตรียมตั้งต้นสู่การเลือกตั้ง มีบุคคลในคณะรัฐมนตรีเอง หรือ คสช.เอง ที่อาจลงสู่สนามการเลือกตั้งในอนาคต
การจัดสรรเงินงบประมาณต่อเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเรื่องที่ต้องรอบคอบและแสดงให้เห็นถึงความยุติธรรมอย่างชัดเจน
แม้ว่ารัฐบาลระบุว่าการเสนอขอรับบำเหน็จประจำปีเป็นการเสนอตามวงรอบปกติ และเห็นว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานทุ่มเทเสียสละสมควรได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ผู้ปฏิบัติงานดังกล่าว
โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติงานตามโยบายที่รัฐบาลกำหนด ในผลงานหลายด้าน ทั้งการรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง การจัดระเบียบสังคม การรับเรื่องร้องทุกข์ช่วยเหลือประชาชนร่วมกับศูนย์ดำรงธรรม การสร้างความปรองดองสมานฉันท์
รวมทั้งการสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาเร่งด่วนของประเทศ เช่น ปัญหาไอยูยู ปัญหาค้ามนุษย์ และปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่น
ความยากง่ายในการทำงานรวมถึงผลประโยชน์ที่ตกแก่ประชาชน เหล่านี้จะสร้างหลักเกณฑ์การพิจารณาออกมาอย่างไร
ในช่วงที่บ้านเมืองมีปัญหาทางการเมืองและไม่ได้เลือกทางออกด้วยการเลือกตั้ง กลไกที่ขับเคลื่อนการทำงานของรัฐย่อมตกแก่ข้าราชการ
แต่การผูกระบบราชการให้มีอำนาจในการตัดสินใจและใช้กฎหมายในส่วนที่มีจุดบกพร่อง มากำกับควบคุมประชาชนทั่วไป ย่อมไม่ใช่การบริหารราชการที่ดี
ยิ่งเมื่อดึงข้าราชการเข้าไปใกล้ผู้ปกครองด้วยการให้บำเหน็จรางวัล จะเสี่ยงทำให้ข้าราชการมุ่งทำงานเพื่อรัฐบาลมากกว่าเพื่อประชาชน
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ที่รัฐบาลยังไม่ได้ยึดโยงใดๆ กับประชาชน