ไม่ว่า นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แห่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่า นายไพบูลย์ นิติตะวัน แห่งพรรคประชาชนปฏิรูป ควรได้รับการสอบถามอย่างจริงจัง

ต่อกรณีที่ “กลุ่มสามมิตร” เปิดปฏิบัติการ”ดูด” นายปรีชา เร่ง สมบูรณ์สุข และพวกจาก “พรรคเพื่อไทย”

เพราะทั้ง 2 ล้วนเคยเปล่งคำขวัญ “ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”

เพราะทั้ง 2 ล้วนแสดงความเชื่อมั่นต่อ “คสช.” ว่าจะเป็นกองหน้าในการขับเคลื่อน “การปฏิรูป”

เพราะปฏิบัติการ “ดูด” ของ “กลุ่มสามมิตร” ที่จังหวัดเลยนั้นคนที่มีบทบาทเป็นอย่างสูง คือ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน

2 คนเปิดปฏิบัติการ”ดูด”เพื่อพรรคพลังประชารัฐ

คงจำได้ว่าบรรยากาศก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 และก่อนการรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 คืออะไร

ไม่ว่าจะจาก”พันธมิตร” ไม่ว่าจะจาก”กปปส.”

นั่นก็คือ เป็นบรรยากาศแห่งการเปิดโปง โจมตี นักการเมืองอันมีพื้นฐานมาจากสิ่งที่เรียกว่า “ทุนสามานย์”

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ คือ เป้าหมาย 1

และหากถือว่าพรรคไทยรักไทยคือเป้าหมาย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คือ เป้าหมาย 1

แล้วมาถึงเดือนมิถุนายน 2561 ทั้ง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็มีบทบาทเป็นอย่างสูงในการเปิดยุทธการ “ดูด”เพื่อสร้างฐานกำลังทางการเมืองให้กับ “คสช.”

การที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ นำ”มวลมหาประชาชน”อย่าง นายไพบูลย์ นิติตะวัน เป่านกหวีดกันสนั่นหวั่นไหว

เพียงเพื่อจะได้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

เพียงเพื่อจะได้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างนั้นหรือ

หาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ไม่รู้สึกสงสัย หาก นายไพบูลย์ นิติตะวัน ไม่รู้สึกสงสัย

บรรดา”มวลมหาประชาชน”ก็น่าจะสงสัย

สงสัยว่าที่พวกตนเสียสละ นอนกลางดิน กินกลางทราย ตระเวณออกปิดสถานที่ราชการเพียงเพื่อที่จะได้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

และ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน อย่างนั้นหรือ

นี่คือโจทย์ใหญ่ทางการเมืองก่อน”การเลือกตั้ง”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน