การพบกันระหว่างตัวแทน”ดีเอสไอ”กับตัวแทน”ธรรมกาย”เมื่อตอนบ่ายของวันที่ 2 ธันวาคม น่าสนใจ

เพราะหลังจากมีการพบและหารือกันเป็นเวลา 3 ชั่วโมงก็ตกลงกันได้อย่างน้อยก็ระดับหนึ่ง
เห็นได้จากคำแถลงจาก “ดีเอสไอ”
“วัดพระธรรมกายและคณะศิษย์ระบุว่า พระธัมมชโยพร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย แต่ขอความมั่นใจในเรื่องการประกันตัว”
เห็นได้จากคำแถลงจาก”วัดพระธรรมกาย”
“มีบรรยากาศที่ดี มีความเข้าใจร่วมกันเป็นที่น่าพอใจ ดีเอสไอก็ได้แจ้งเรื่องข้อกฎหมายต่างๆ จะนำผลหารือแจ้งไปยังผู้บริหารของวัดต่อไป”
แต่ละฝ่ายต่าง”ระมัดระวัง” แต่ละฝ่าย”ตั้งการ์ด”รัดกุม
เหมือนกับมีลักษณะ “คืบหน้า” แม้ในความเป็นจริงยังอยู่ในจุดเดิม
จุดเดิมที่ยัง”ประจันหน้า” ไม่แปรเปลี่ยน

หากมองจาก “แถลง”ที่ออกมาเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ก็ยังอยู่ในเนื้อหาอย่างเดียวกับเมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน
เพียงแต่ตอนนั้น”ตัวแทน”หารือ
ทางด้านตำรวจทางด้านดีเอสไอ คือ พล.ต.ต.ชยพล ฉัตรชัยเดช
ทางด้านธรรมกาย คือ พระราชภาวนาจารย์
แต่เมื่อมาถึงวันที่ 2 ธันวาคม ตัวแทนด้านดีเอสไอ คือ นายพิสิฐชัย สว่างวัฒนากร
ทางด้านธรรมกาย คือ พระมหานพพร ปุญญชโย
แต่ “เนื้อหา”การหารือ และ”บทสรุป”ก็น่าจะเป็นเหมือนเดิมไม่แปรเปลี่ยน
1 ต้องการตัว พระธัมมชโย
ขณะเดียวกัน 1 ต้องการหลักประกันว่าจะต้องได้รับ”การประกันตัว”
สะท้อนว่ายัง”ตกลง”กันไม่ได้

ที่ว่ายังตกลงกันไม่ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นทางด้าน”ดีเอสไอ”ไม่ว่าจะเป็นทางด้าน”ธรรมกาย”
“ตัวแทน”ล้วนไม่สามารถให้”คำตอบ”ได้
ทางด้าน”ดีเอสไอ”ยังจำเป็นต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของผู้บังคับบัญชาคือ “อธิบดี”
ทางด้าน”ธรรมกาย”ยังจำเป็นต้องนำเข้าสู่การพิจารณาของสิ่งที่ พระมหานพพร ปุญญชโย เรียกว่า “คณะบริหาร”ของทางวัดพระธรรมกาย
นั่นก็คือ พระเทพญาณมหามุนี หรือ พระธรรมชโย
เรื่องนี้จึงไม่เพียงแต่เป็น “ภาพยนต์ขนาดยาว”หากแต่ยังทำท่าว่าอาจเป็น “ซีรีส์” หลายร้อยตอนจบ ทั้งด้านของ”ดีเอสไอ”และด้านของ”ธรรมกาย”
จำเป็นต้องร้องเพลง “รอ” กันต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน