การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายเสร็จสิ้นรอบแรกในระบบแบ่งกลุ่มไปแล้ว จากนี้ไปจะเป็นการแข่งขันในระบบจับคู่แพ้คัดออก จนกระทั่งเหลือ 2 ทีมสุดท้ายเข้าไปชิงชนะเลิศ
นอกไปจากความสนุกสนานหรือแม้กระทั่งการพนันขันต่อแล้ว การแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้มีบทเรียนหรือตัวอย่างให้คนทั่วไปได้เรียนรู้อีกหลายประการด้วยกัน
ประเด็นแรกเลยก็คือ ในโลกที่การแข่งขันเป็นไปอย่างเข้มข้นและจริงจัง ไม่มีใครหรือชาติไหนสามารถผูกขาดความยิ่งใหญ่เอาไว้ได้
ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนก็คือการตกรอบแรกของแชมป์เก่าอย่างเยอรมนี
ในด้านหนึ่ง อาจจะเป็นความผิดพลาดบกพร่องในการเตรียมตัวมาแข่งขันของเยอรมนีเอง
แต่อีกส่วนหนึ่งนั้นปฏิเสธไม่ได้ว่าทีมฟุตบอลของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะจากเอเชียและแอฟริกาที่เคยเป็นไก่รองบ่อน ยกระดับตนเองขึ้นมาอยู่ในช่วงชั้นที่ใกล้เคียงกับประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจในกีฬาชนิดนี้
ความแตกต่างของสรีระหรือแรงปะทะ ถูกชดเชยด้วยจุดเด่นประการอื่น เช่นความคล่องแคล่วว่องไวของผู้เล่น หรือแผนการเล่นที่เน้นความเป็นทีม
โลกาภิวัตน์และการสื่อสารยุคใหม่ยังทำให้การไหลเวียนของข้อมูลเพื่อการปรับตัวเรียนรู้เป็นไปได้ง่ายขึ้น
ส่งผลให้การเตรียมตัววางแผนมีคุณภาพและประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม
แต่จะต้องทำความเข้าใจด้วยว่า การฉายแสงในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของทีมขนาดเล็กจากประเทศต่างๆ นั้น เป็นผลรวมหรือยอดภูเขาน้ำแข็งของการทำงานหนักอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาอย่างน้อย 4 ปี-หรือมากกว่านั้น
กว่าจะวางรากฐานของการพัฒนาคุณภาพผู้เล่น และการสร้างทีมให้ลงตัวตามที่ต้องการ การฝ่าฟันคู่แข่งจากภูมิภาคเดียวกัน ต้องใช้ทรัพยากรและความสามารถในการจัดการอย่างสูง
เมื่อทำงานอย่างเอาจริงเอาจังมาเป็นเวลานาน การปรากฏตัวในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายจึงไม่ใช่เรื่องบังเอิญ
ไม่มีความบังเอิญสำหรับผู้ประสบความสำเร็จ