แม้จะมีความมั่นใจเป็นอย่างสูงจาก”กองเชียร์”ระดับ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ว่า

ทุกอย่างจะเรียบร้อยใน “10 ธันวาคม”
เป็นความเรียบร้อยที่จะกดดันผ่าน พระราชภาวนาจารย์ ไปสู่การได้ตัว พระเทพญาณมหามุนี
แต่เมื่อฟังจาก นายพนม ศรศิลป์ ล่าสุดก็เริ่ม”ไม่แน่ใจ”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่า นายพนม ศรศิลป์ คือ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)
ทำหน้าที่เป็น”ตัวกลาง”ในการ”เจรจา”
นั่นก็คือ ความไม่แน่ใจว่า พระราชภาวนาจารย์ ยังเป็นรักษา การเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายอยู่หรือไม่
ความไม่แน่ใจนั่นแหละคือ “ความมั่นใจ”
ความมั่นใจว่าเรื่องการได้ตัว พระเทพญาณมหามุนี อาจมิใช่ภายในวันที่ 10 ธันวาคม
นี่คือ ปัจจัยใหม่อันทำให้”พลิกผัน”และ”แปรเปลี่ยน”

ฐานข้อมูล”เดิม”อันเป็นของสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.)เป็นอย่างไร
1 การตั้งผู้รักการเจ้าอาวาสจะต้องมีคำสั่งจากเจ้าคณะผู้ปกครอง
1 “ข้อมูลที่พศ.มีอยู่ขณะนี้ยังคงเป็นคำสั่งของเจ้าคณะตำบล คลองสี่ที่ตั้ง พระราชภาวนาจารย์ เป็นรักษาการเจ้าอาวาสอยู่”
แต่ความเป็นจริง”ใหม่”ที่รับทราบกันคือ
พระครูวิจิตรอาภากร เจ้าคณะตำบลคลองสี่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ระบุว่า
“ทางวัดได้ตั้ง พระสุธรรมญาณวิเทศ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสเป็นผู้ปฏิบัติแทนรักษาการเจ้าอาวาส การดำเนินการนี้ทางวัดสามารถดำเนินการเป็นการภายในได้เลย”
เท่ากับ พระราชภาวนาจารย์ “ลอยตัว”

เป้าหมายเดิมของ “ตำรวจ” เป้าหมายเดิมของ “ดีเอสไอ” คือความ พยายามในการ “กดดัน”
แรกทีเดียว กดดันโดยตรงไปยัง พระเทพญาณมหามุนี
เป็นการกดดันตั้งแต่เมื่อเดือนพฤษภาคม แต่เมื่อการบุกเข้าจะจับกัมภายนัดพระธรรมกายล้มเหลวในเดือนมิถุนายน
“เป้า”ก็เปลี่ยนมาเป็นกดดัน พระราชภาวนาจารย์
เห็นได้จากการเรียกร้องให้ พระราชภาวนาจารย์ ไปยังสภ.คลองหลวง เห็นได้จากการเรียกร้องให้ พระราชภาวนาจารย์ ปรากฎตัวในการเจรจาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม
ที่สุดก็ถึงขั้น”แจ้งความ”และขยายไปยัง”หมายเรียก” โดยขีดเส้นขยายไปยัง”หมายจับ”
แต่แล้ว พระราชภาวนาจารย์ ก็”ลอยตัว”
เป็นการลอยตัวอันต่างไปจาก พระเทพญาณมหามุนี ที่ดำเนินไปภายใต้ข้ออ้างเรื่อง “อาพาธ” ไม่สามารถเดินทางออกมามอบตัวได้ตามเสียงกู่ของ”ดีเอสไอ”และ”ตำรวจ”
“กลยุทธ์”ใหม่จากธรรมกายเช่นนี้ จะ”แก้เกม”อย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน