สถานการณ์ราคาผลผลิตสับปะรดตกต่ำชัดเจนขึ้นอีกในสัปดาห์นี้ เมื่อรัฐบาลเผย ถึงหนทางช่วยเหลือ ส่วนพรรคการเมืองรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรทางหนึ่ง
แต่สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือข้อมูลสถิติสำหรับการแก้ไขปัญหาในครั้งนี้
ประชาชนทั่วไปยังไม่ทราบว่า ผลผลิตที่ล้นตลาดนั้นมีประมาณเท่าใด เกินจากจำนวนที่ควรจะเป็นเท่าใด ราคาซื้อขายที่ควรจะเป็นเท่าใด ผลผลิตที่ต้องเร่งนำไปแปรรูปคือเท่าใด ฯลฯ
หากมีตัวเลขให้เห็นชัดเจน จะทำให้ทิศทาง และแนวร่วมของการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าในขณะนี้เป็นไปได้ดียิ่งขึ้น ประชาชนจะได้มีส่วนร่วมช่วยเหลือได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
หลังจากสภาพการณ์นี้เกิดขึ้นมา ตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนเข้าสู่เดือนกรกฎาคมแล้ว
ข้อมูลที่กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ แจ้งในสัปดาห์นี้คือการสนับสนุนงบประมาณ 1,285,000 บาท ให้จังหวัดที่มีผู้ผลิตสับปะรด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี เชียงราย อุทัยธานี พิษณุโลก ลำปาง ประจวบคีรีขันธ์
เงินจำนวนดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายรวบรวมผลผลิต คัดคุณภาพ และกระจายไปจังหวัดปลายทางนอกแหล่งผลิต รวมปริมาณกว่า 2,000 ตัน
นอกจากนี้ยังเปิดเผยถึงมาตรการประสานงานกับภาครัฐและภาคเอกชนให้ช่วยรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกร เช่น บริษัทกิจการน้ำมันให้รับซื้อไปแจกผู้รับบริการตามสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และห้างสรรพสินค้าต่างๆ ให้ช่วยรับซื้อสับปะรดจากเกษตรกรโดยตรง ปริมาณ 2,820 ตัน
มาตรการความช่วยเหลือเหล่านี้คล้ายกับที่ใช้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
คําถามคือหลังจากการแก้ปัญหาเฉพาะ หน้าผ่านพ้นไปแล้ว สิ่งที่รัฐบาลนี้หรือพรรคการเมืองที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งพึงนำเสนอคือการแก้ไขปัญหาในระยะยาว
ไม่เช่นนั้นทุกเดือนพ.ค.-ก.ค.จะมีสถานการณ์ผลผลิตสับปะรดล้นตลาดอีก และต้องหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้ากันอีก
ในเมื่อทุกฝ่ายทราบว่าสับปะรดแปรรูปได้ ใช้เป็นอาหารเลี้ยงโคเนื้อโคนมได้ แต่สิ่งที่ยังไม่เป็นที่รู้กันทั่วไปคือปริมาณการผลิตในขณะนี้ล้นอยู่ที่ตลาดใด พื้นที่ใดไม่มีโรงงานแปรรูป และจะจัดการอย่างไรกับสัดส่วนที่เป็นปัญหา
ถึงเวลาต้องคิดอย่างจริงจัง