ค่อนข้างแจ่มชัดแล้วว่าอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ที่จะเป็นคิวที่ 2 ต่อจาก นายสกลธี ภัททิยกุล น่าจะเป็น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ
แม้โดย “คำพูด”จะยังมีลักษณะแบ่งรับ แบ่งไม่รับ
แต่โดยน้ำเสียงและความโน้มเอียง บ่งสะท้อนว่า “ใจ”มิได้อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์อีกแล้ว
หรือถึงจะอยู่ก็ไม่เต็มร้อย
คำพูดที่ว่า “การเมืองยังคุกรุ่นอยู่ ยังไม่มีใครตัดสินใจอะไรได้” เสมอเป็นเพียงโวหารในแบบของนักการเมือง
นักการเมืองซึ่งเคยเป็น “ผู้อำนวยการ”พรรคประชาธิปัตย์
เพราะ “ความเป็นจริง”ต่างหากที่เป็น “คำตอบ”อันเด่นชัด
ความเป็นจริง 1 ก็คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ อยู่ในทีมเดียวกันกับ นายสกลธี ภัททิยกุล
ขณะนี้ นายสกลธี ภัททิยกุล ล่วงหน้าไปก่อนแล้ว
มีความเด่นชัดว่า นายสกลธี ภัททิยกุล ไปนั่งรออยู่ในตำแหน่งรองผู้ว่าฯกทม. โดยสถานีสุดท้ายคือกำลังอันแข็งแกร่งของพรรคพลังประชารัฐ
ความเป็นจริง 1 ก็คือ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ พบและสนทนากับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มาแล้ว
โฉมหน้าก็คือ “เป็นการคุยในเรื่องการทำโรงเรียนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก” อันเป็นผลให้เป็น “แขก”คนหนึ่งของรัฐบาลมารอต้อนรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ระหว่างการเยือนระยอง
พร้อมกันนั้นในการคุยกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ “เป็นการแบ่งปันข้อมูลประสบการณ์ในช่วงที่ผมเคยทำงานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์”
สะท้อนกระบวนการ “ล้วงข้อมูล”ในท่วงทำนองแบบ ปีเตอร์ ดรักเกอร์ ผู้ยิ่งยง
ด้านหลักจึงเป็นข้อมูลจาก “ณัฏฐพล”
กล่าวสำหรับ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ จึงอยู่ระหว่างการร้องเพลง “รอ”อันต่างจากกรณี นายสกลธี ภัททิยกุล
เป็นการรอพร้อมกับการถ่ายทอด “ข้อมูล”และ “ประสบการณ์”จากที่เคยทำงานเป็นผู้อำนวยการพรรคและเป็นส.ส.
เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณไปยัง “ประชาธิปัตย์”โดยตรง