บทบรรณาธิการ : สองเหตุการณ์ใหญ่

ภารกิจช่วยเหลือเยาวชนและโค้ชทีมหมูป่าอคาเดมี 13 ชีวิตออกมาจากถ้ำ วนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ไม่เพียงเป็นข่าวใหญ่ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่องตลอดครึ่งเดือนมานี้ ยังเป็นข่าวใหญ่ในการนำเสนอของสำนักข่าวต่างประเทศอย่างกว้างขวาง

มีบุคคลสำคัญในทุกวงการ ทั้งผู้นำประเทศ ผู้นำทางศาสนา ไปจนถึงคนดังในวงการบันเทิงและกีฬาต่างส่งข้อความให้กำลังใจและเอาใจช่วยทีมหมูป่า และทีมปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือทั้งหมด

นอกจากนี้ยังมีการเสนอความช่วยเหลือ ทั้งด้านบุคลากร เทคโนโลยี ภูมิศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ไปจนถึงการถ่ายทอดประสบการณ์ของผู้เคยประสบภัยต่างๆ มาปรับใช้เป็นข้อมูลและวิธีการกู้ภัย

นับเป็นปรากฏการณ์ความร่วมมือครั้งสำคัญสำหรับประเทศไทยและโลก

อย่างไรก็ตาม ข่าวใหญ่ระดับโลกของไทยอีกข่าวที่เป็นไปในทางตรงข้ามกับความหวัง คือโศกนาฏกรรมเรือโดยสารของนักท่องเที่ยวล่ม ที่ จ.ภูเก็ต มีผู้เสียชีวิตเกินครึ่งร้อย

ยิ่งเมื่อผู้นำสูงสุดของจีน ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เข้ามาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือผู้ประสบภัย ครอบครัวผู้สูญเสีย ไปจนถึงเตือนภัยนักท่องเที่ยวจีนรายอื่นๆ ให้ตระหนักถึงความเสี่ยงภัยดังกล่าว

แน่นอนว่าข่าวใหญ่ลักษณะนี้ส่งผลด้านลบต่อการท่องเที่ยวของประเทศไทยมาก โดยเฉพาะเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งทางน้ำ-ทางทะเล

ไม่น่าจะเกิดขึ้นในจังหวัดที่มีความเจริญเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกอย่างภูเก็ต

หลังผ่านพ้นเหตุการณ์ใหญ่ทั้งสองเหตุการณ์นี้แล้ว จึงเป็นเรื่องที่รัฐบาล เอกชนที่เกี่ยวข้อง และประชาชน ต้องทบทวนบทเรียนร่วมกัน

การทบทวนนี้ไม่ใช่การกล่าวโทษหรือลงโทษ แต่ต้องเป็นตัวอย่างสำหรับการศึกษาหาทางป้องกันและพัฒนาหนทางลดความเสี่ยงภัยลง ให้ได้มากที่สุด

ที่ต้องปรับปรุงให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม เพื่อหลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมลักษณะนี้เกิดขึ้น ซ้ำรอย

ทำอย่างไรที่จะป้องกันความผิดพลาดส่วนบุคคล ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวได้