มีความเป็นไปได้สูงอย่างยิ่งว่า “บุรีรัมย์ โมเดล”จะเป็น”ปฏิมา”ทางความคิดต่อ “ครม.สัญจร”ที่อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ระหว่างวัน ที่ 23-24 กรกฎาคม

เพราะว่า “ความคิด” นี้ดำรงอยู่ภายใน”ทำเนียบรัฐบาล”มาก่อนหน้านี้แล้ว

จำได้หรือไม่ว่าหลังภาพของสนามช้าง อารีนา ปรากฏ

อย่างน้อยก็มีที่ปรึกษา”รองนายกรัฐมนตรี”ท่านหนึ่งทอดตามองไปยัง นายเสนาะ เทียนทอง และมั่นใจว่าจะก่อปรากฏการณ์ อันใหญ่หลวง

นั่นก็คือ หากสนามช้าง อารีนา ดึงคนมาได้กว่า 30,000 สระแก้วน่าจะทะยานไปถึงหลักกว่า 50,000

นี่คือ ภาพแห่ง”ความฝัน”อันแสนงามจาก “ทำเนียบรัฐบาล”

จึงไม่แปลกที่ในระหว่างการเคลื่อนไหวเพื่อตระเตรียมรับมือกับงาน “ครม.สัญจร”ในพื้นที่อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ก็แว่วยินเสียงอันดังมาจาก “กลุ่มสามมิตร”

นั่นก็คือ

“คิดว่าต้องฉลาดเหมือนบุรีรัมย์เอาคนกว่า 30,000 มาปรบมือต้อนรับแล้วได้จัดสรรงบประมาณมาก”

ความหมายของ “คำพูด” นี้คืออะไร

ไขออกมาได้ว่า เมื่อที่สนามช้าง อารีนา บุรีรัมย์ นายเนวิน ชิดชอบ จัดหาคนมาได้กว่า 30,000 ที่อุบลราชธานี นายสุพล ฟองงาม สมควรหามาอย่างน้อยก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

นี่เป็นการสื่อโดยตรงไปยัง”พลังอุบลราชธานี”อันดังมาจาก”พลังโคราช”

เพราะ นายภิรมย์ พลวิเศษ ยืนยันอย่างหนักแน่นจริงจัง

“อย่างโคราชจะเอามาเป็นแสนคนก็ได้ ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาอีก ยิ่งมายิ่งได้พัฒนาและได้ประโยชน์”

ตรงนั้นต่างหาก คือ หัวใจของการเดินสาย”ครม.สัญจร”

ไม่ต้องให้พรรคเพื่อไทยหรือพรรคประชาธิปัตย์หรอกที่ออกมากล่าวถึงเป้าหมายแท้จริงของ “ครม.สัญจร”คนวงในอย่าง”กลุ่มสามมิตร”นั่นแหละยอดเยี่ยม

ในเมื่อ “กลุ่มสามมิตร” กับ “พรรคพลังประชารัฐ”มีความเป็นเอกภาพอย่างชนิดหนึ่งเดียวกัน นี่เท่ากับเป็นเงาสะท้อนของคสช.และรัฐบาล

ที่ว่า”ครม.สัญจร” คือการเดินสาย”หาเสียง”นั้นแม่นแท้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน