ลุงเก่ง 800 บรรทัด

ใบตองแห้ง

ครม.สัญจรที่อุบลฯจบลงอย่างชื่นมื่น ได้ภาพได้ข่าวคนอีสานรักลุงตู่ เชียร์ลุงตู่สู้ๆ ลุงตู่สู้ตาย ลุงตู่ไว้ลาย สู้ตายสู้ๆ

เสียดาย ไม่ยักมีพิธีมอบเหรียญคล้องคอ แบบกีฬาสีอนุบาลหมีแพนด้า เพราะไม่มีคู่แข่ง สู้ๆ ก็ไม่รู้สู้กับใคร เห็นแต่ลุงเดินสายได้คนเดียว บอกชาวบ้านไปทั่ว ว่ารักและปรารถนาดี แต่ถ้ามีใครด่า จะชกปากเลย มีความสุขมากๆ เมื่อเด็กนักเรียนร้องเพลงประสานเสียง “พัฒนาไม่หยุดคือพลเอกประยุทธ์” ขณะที่ทหารตำรวจบุกบ้านอาจารย์ ห้ามนักศึกษาต่อต้าน กลัวเสียภาพพจน์

ภาพที่เห็น ก็เลยเป็นลุงทหารใจดี ทั้งเก่ง ทั้งน่ารัก ติดดินอีกต่างหาก ร่วมฟ้อนร่วมรำกับชาวบ้าน แต่ห้ามยกมือไหว้ เพราะนายกฯ ไม่ใช่เจ้านาย เป็นคนรับใช้ ถึงแม้ยึดอำนาจมา ห้ามต่อต้าน ห้ามวิจารณ์ ชุมนุม 5 คนโดนจับกุมคุมขัง ก็ยังห้ามยกมือไหว้ ทั้งที่เก่งเหลือหลาย พูดคนเดียวได้ 5 ชั่วโมง อ่านหนังสือก็ตั้งเยอะ วันละ 800 บรรทัด มากกว่าคนไทยทั่วไป 100 เท่า จนเกิดการสังเคราะห์ในสมอง รู้ปัญหาทุกกระทรวง คนเดียวสั่งได้ 21 กระทรวง จนผลงานหนาเป็นศอก

ขณะเดียวกันท่านยังเป็นผู้เสียสละ ขยัน ซื่อสัตย์ มีวินัย ใฝ่คุณธรรม ไม่ต้องการมีอำนาจ แต่จำเป็นต้องเข้ามาทำให้ประเทศสงบ ชาติเจริญ ถ้าลงจากอำนาจก็กลัวไม่สงบ ไม่เคยบังคับใคร แต่ต้องมีกฎหมาย จึงออกคำสั่งเป็นกฎหมาย ไม่เคยทำร้ายใคร ยกเว้นคนทำผิดกฎหมาย คนขัดคำสั่ง ไม่เคยเกลียดใคร ใครเกลียดลุงขอให้เลิกอ่านหนังสือพิมพ์ ดูแต่คืนวันศุกร์ ไปทุกที่ก็ถาม ใครเกลียดลุงยกมือขึ้น ยกสิ ไม่เห็นมีใครยก มีแต่คนรักชัวร์ ซตพ.

ก็เป็นภาพ ครม.สัญจรอันงดงาม ปูเส้นทางสืบทอดอำนาจ อ้าว ก็อำนาจเจริญไง จะตัดเส้นทางใหม่ตั้งหลายสาย ไม่เกี่ยวกับดูด ส.ส. เพราะแค่มีนักการเมืองไปรอที่สวนสัตว์ เสียอย่างเดียว ฉากจบลุงป้อมกลับจู๊ดๆ ไม่รู้ไปกินอะไร ดูเมนูก็ไม่มีของแสลงอย่างไข่ปลาคาเวียร์

คำถามคือ รัฐบาลต้องการภาพคนอีสานรักลุง เชียร์ลุง เด็กสรรเสริญลุง ไปเพื่ออะไร ในเมื่อรู้กันว่ามีการปิดกั้น เตรียมการ กระทั่งมีข่าวเปลี่ยนกำหนดพบชาวบ้านบางจุด เพราะเกรงมีคนชูป้ายประท้วง

มันแหงละว่าไม่มีใครอยากต่อต้าน คัดค้านซึ่งหน้า ต้องกินดีหมีหัวใจเสือมาเท่านั้น เพราะจะถูกตั้งข้อหามากมาย แบบไผ่ ดาวดิน หรือคนอยากเลือกตั้ง ที่หากไม่ติดคุกก็ต้องขึ้นโรงพักขึ้นศาลแทบไม่เว้นวัน

แต่ถามจริงว่าบรรยากาศอันอบอุ่น รักลุง สรรเสริญลุง นี้จะยั่งยืนหรือ โดยเฉพาะหลังเลือกตั้งที่ไม่มี ม.44

ดูให้ดี ก็เหมือนมีความพยายามสร้างภาพลักษณ์ กึ่งปฏิบัติการจิตวิทยา ว่าการเมืองหลังเลือกตั้งควรเป็นเช่นนี้ คืออยู่ในความสงบ มีนายกฯ คนดี มีรัฐราชการที่เข้มแข็ง ประชาชนไม่ควรคัดค้าน

“ประชาธิปไตยในฝัน” ของรัฐทหาร กลุ่มทุนธุรกิจ คนชั้นกลางระดับบนคนมั่งมี ในวันนี้คือ หวังให้มีรัฐบาลสืบทอดอำนาจ กวาดต้อน ส.ส.จนชนะเลือกตั้ง แล้วเชื่อว่าฝรั่งต่างชาติจะเข้ามาลงทุน เศรษฐกิจจะโชติช่วงชัชวาล ไม่ต้องแยแสเรื่องการจำกัดเสรีภาพ ความเห็นต่าง ความ อยุติธรรม ลากถูกันไปถ้าปากท้องดี คนที่เคยไม่พอใจอย่างพวกเสื้อแดงก็จะไปเข้าก๊วนสามมิตรเอง

ซึ่งถ้าเป็นได้ตามคาดหวัง รัฐบาลสืบทอดอำนาจอาจไม่ต้องพึ่ง ม.44 แต่อ้างเสียงข้างมาก อ้างเศรษฐกิจดี ปิดกั้นเสรีภาพได้หนักกว่านี้อีก

อย่างไรก็ดี มีข้อสังเกตขำๆ ว่าเหตุใดช่วงนี้ลุงจึงพยายามโชว์ความเก่ง เช่น บอกว่าอ่านหนังสือวันละ 800 บรรทัด จนเกิดการสังเคราะห์ในสมอง เกิดสติปัญญา มากกว่าคนไทยทั่วไปที่อ่านหนังสือปีละ 8 บรรทัด ซึ่งทำให้โลกออนไลน์ถกกันครึกครื้น ว่าท่านอ่านหนังสืออะไร

อ่านปรัชญาหรือ ไม่น่าใช่ อ่านรัฐศาสตร์การปกครอง ก็ยังสงสัย อ่านนิยายคลาสสิค อ่านตำราวิทยาศาสตร์ ฯลฯ ก็ไม่เข้าบุคลิกซักอย่าง อ่านโพยก่อนพูด ก็ไม่น่านับ สงสัยต้องฝากนักข่าวถาม ว่าอ่านหนังสืออะไรแน่ ถึงรู้มากจนสั่งได้ทุกกระทรวง

ถามจริง ว่าทำไมท่านจะต้องโชว์ความเก่ง ในเมื่อที่ผ่านมา ก็มักอ่อนน้อมถ่อมตน บอกว่าตัวเองไม่ใช่คนฉลาด และว่าที่จริง คนดีมีศีลธรรมที่เชียร์ท่านก็ไม่ได้ต้องการผู้นำฉลาด แค่อยากมีลุงพูดพร่ำอบรมบ่มสอนหน้าเสาธงเท่านั้น

ว่างๆ ก็ทบทวนประวัติศาสตร์สมัยป๋าเปรม 8 ปีบ้างนะครับ ป๋าเปรมพูดไม่กี่คำ ไม่เคยบอกว่าตัวเองเก่ง แต่พิสูจน์ด้วยการเลือกใช้คน เลือกใช้นโยบาย

(หน้า 6)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน