ปริมาณน้ำในเขื่อนหลักทั่วประเทศที่มากที่สุดในรอบหลายปี ในขณะที่มีพยากรณ์อากาศว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดมรสุมพัดผ่านในฤดูฝน อันเนื่องมาจากความแปรปรวนของสภาพอากาศทั่วโลก

ทำให้เกิดความวิตกว่า หากการบริหารจัดการน้ำไม่มีประสิทธิภาพ อาจจะเกิดอุบัติภัยน้ำท่วมใหญ่เหมือนที่เคยเกิดมาแล้วในปี 2554

อย่างไรก็ดี กรมชลประทานออกมาให้ความมั่นใจว่าสถานการณ์เช่นที่ว่านั้นยากจะเกิดขึ้น เพราะจะต้องประกอบด้วยปัจจัยเฉพาะหลายประการเกิดขึ้นพร้อมกัน และเมื่อผ่านประสบการณ์จัดการกับน้ำท่วมใหญ่มาแล้ว

เชื่อว่าความสามารถในการจัดการหรือรับมือกับสภาพน้ำท่วมจะดีขึ้น กว่าเดิม

อย่างไรก็ดี นอกเหนือไปจากประเด็นว่าอาจจะเกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคกลางแล้ว ประเด็นการจัดการน้ำในระยะสั้นที่ควรพิจารณาควบคู่กันไปด้วยก็คือ

จะสามารถใช้ภาวะน้ำท่าบริบูรณ์ทั้งในด้านจัดการสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคเกษตรกรรม ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุดได้อย่างไร

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ราคาพืชผลทั้ง พืชสวนและพืชไร่หลายชนิดยังอยู่ในภาวะผันผวน บางชนิดก็ปรับตัวขึ้นมาแต่อีกหลายชนิดยังทรงตัวหรือราคาลดลง ตามสภาพราคาในตลาดโลก

การประสานงานด้านการผลิตกับการตลาดเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่เกษตรกรเป็นภาระสำคัญ

ขณะเดียวกันสิ่งที่เป็นโครงการในระยะยาวในการจัดการน้ำก็ต้องเร่งดำเนินการควบคู่กันไป เพื่อมิให้เกิดสภาพท่วมสลับแล้งดังที่เคยเป็นมาในอดีต

เพราะตั้งแต่เหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ 2554 เป็นต้นมา แม้จะมีการศึกษาและวางแผนในการจัดการน้ำทั้งระบบเอาไว้แล้ว แต่การลงมือทำที่เป็นรูปธรรมอาจจะเรียกได้ว่าน้อยมากหรือแทบไม่มีเลย

ทั้งที่การบริหารจัดการน้ำซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตของคนส่วนใหญ่ในประเทศ ไม่ว่าจะอยู่ในหรือนอกเขตชลประทาน เป็นหนึ่งในภารกิจสำคัญที่สุดของรัฐบาลทุกชุด แต่กลับไม่มีการปฏิบัติให้เกิดขึ้นจริง

นี่คือเวลาที่ต้องลงมือทำ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน