การตัดสินใจถอนตัวจากตำแหน่งหัวหน้าพรรครวมพลังประชาชาติไทยในการประชุมเพื่อวันที่ 5 สิงหาคม ของนายเอนก เหล่า ธรรมทัศน์ เป็นการตัดสินใจในทางยุทธศาสตร์

ไม่ใช่การตัดสินใจในทางยุทธวิธี

หากมองอย่างผิวเผินเหมือนกับ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ยอมรับว่าบารมีสู้ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ไม่ได้ จึงจำเป็นต้องจำใจหลีกทางให้

หากมองเช่นนี้แสดงว่ายังเข้าใจ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ไม่ลึกซึ้งอย่างเพียงพอ

ทั้งๆที่ในความเป็นจริง นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ มองจังหวะก้าวในทางการเมืองโดยอิงกับ”ยุทธศาสตร์”มาโดยตลอด

นี่คือความจัดเจนอันได้มาจากพรรคมหาชน

เพียงผ่านการประชุมขั้นต้นเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ณ มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อเข้าสู่การประชุมอีกหน นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ก็มอง ออกว่าทิศทางของพรรครวมพลังประชาชาติไทยจะเป็นอย่างไร

นั่นก็คือ การประชุมหนที่ 2 จัดขึ้นในโรงแรมระดับ 5 ดาวกลางกทม.

จากเดือนมิถุนายน ถึง เดือนสิงหาคม ก็แจ่มชัด

แจ่มชัดว่าที่อ้างว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยเป็นพรรคของ”มวลมหาประชาชน”ก็ดำเนินไปในแบบพูดไป ใช้น้ำยาบ้วนปากไป

เพราะแท้จริงแล้วก็คือ “พรรคเทพเทือก”

ไม่ว่าหัวหน้าพรรค ไม่ว่าเลขาธิการพรรค ล้วนผ่านการเลือก สรร กลั่นกรองมาแล้วจาก นายสุเทพ เทือกสุบรรณ

บทเรียนจากพรรคมหาชนจึงตามมาหลอกหลอน

ตอนนั้นแม้ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ จะเป็นหัวหน้าแต่เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริง คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์

มันสมองระดับ นายเอนก เหล่าธรรมทัศน์ ผ่านการฝึกวิทยายุทธ์มาจากสำนัก พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ มาแล้วทำไมจะมองไม่ออก จึงฉลาดอย่างเพียงพอที่จะถอนตัวออกมา

เปิดถนนโล่งอย่างเต็มที่ให้ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ สั่งซ้ายหันขวาหันอย่างเต็มที่

เพราะ”รวมพลังประชาชาติไทย”เท่ากับ”เทพเทือก”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน