เด่นชัดแล้วว่าขบวนการยื้อ ถ่วง หน่วง โรดแม็ป”การเลือกตั้ง”เริ่มแผลงฤทธิ์อีกครั้ง
เล็งเป้าไปยังตำแหน่ง”ผู้ตรวจการเลือกตั้ง”
สัมผัสได้จากการเคลื่อนไหวของ 36 สนช.ที่เสนอแก้ไขพรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง
หากทำสำเร็จก็จะเลื่อนการเลือกตั้งไปได้อีก 9 เดือน
นี่เป็นกระบวนการทาง”รัฐสภา”พื้นๆที่ไม่จำเป็นต้องพรรคที่อยู่ในวงการมายาวนานตั้งแต่เดือนเมษายน 2489 อย่างพรรคประชาธิปัตย์จะอ่านออก
แม้กระทั่งพรรคชาติไทยพัฒนาซึ่งเพิ่งเตาะแตะหลังสถานการณ์เดือนตุลาคม 2516 ก็อ่านทะลุ
เพราะอยู่ใน”แผนสมคบคิด”บนพื้นฐาน”เขาอยากอยู่ยาว”
หากดูความอึกทึกครึกโครมอันเกิดขึ้นระหว่างสนช.กับกกต.ก็รู้แล้วว่าความขัดแย้งที่ปรากฏมาจาก”ภายใน”
ขณะที่”ภายนอก”ก็ขึ้น”บนภู”เฝ้าดูอยู่
ไม่ว่า นายศุภชัย สมเจริญ ไม่ว่า นายบุญส่ง น้อยโสภณ ไม่ว่า นายประวิช รัตนเพียร ดาหน้ากันออกมาครบครันจากกกต.
ทางด้านสนช.ก็มี นายวัลลภ อังคณานุรักษ์
ยิ่งออกโรงผู้คนก็ยิ่งประจักษ์ในความต้องการแท้จริงของภายใน “แม่น้ำ 5 สาย”
ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน
เพราะว่าพรป.ว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้งก็เป็นผลิตผลของสนช. เหมือนๆกับพรป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เหมือนๆกับพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
ผ่านความเห็นชอบจากสนช. และสนช.นั่นเองที่เสนอแก้ไขอย่างชนิดก้นหม้อยังไม่ดำ
จุดเทียนเวียนวนกันอยู่ใน”แม่น้ำ 5 สาย”
การเคลื่อนไหวคราวก่อนๆอาจอ้างได้ว่าเพื่อความรอบคอบ เพื่อความรัดกุม
ทั้งๆที่เป้าหมายก็เพื่อ ยื้อ ถ่วง หน่วง
ทำเหมือนกับว่าตาของชาวบ้านเป็นตาไม้ ทำเหมือนกับว่าหูของชาวบ้านเป็นหูกะทะ ทำเหมือนกับจมูกของชาวบ้านไม่ได้กลิ่นไม่รู้รส
เพียงเพราะต้องการ”อยู่ยาว” เพียงเพราะต้องการ”อยู่นาน”