ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมเคลื่อนขบวน “ครม.สัญจร”นัดหน้าไปยังจังหวัดชุมพร

“กลุ่มสามมิตร” ก็เตรียมสัญจรลง”ใต้”

ครม.สัญจรเริ่มสำรวจ “โครงการ” จำนวนมากและพร้อมให้ การอนุมัติเห็นชอบพร้อมเงินงบประมาณมากมายหลายหมื่นล้านบาท

กลุ่มสามมิตรสัญจรก็เดินทางไปพร้อมกับทาง 1 รับฟังปัญหาความเดือดร้อน ทาง 1 นำเสนอโครงการโคขุน โคเนื้ออันสุดแสนจะวิลิศมาหรา

พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ซึ่งก็เป็นเจ้าของพื้นที่ก็ได้แต่ทำตามปริบๆ

กลุ่มสามมิตร”สัญจร”ได้เพราะไม่ได้เป็น”พรรคการเมือง”

ในเมื่อไม่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก็มีอนุสาสน์ออกมาแล้วว่า

เมื่อเป็นการเคลื่อนไหวในนาม”กลุ่ม”ย่อมไม่ผิด

บรรทัดฐานของกองทัพภาคที่ 4 ก็ย่อมจะเป็นบรรทัดฐานอัน เดียวกันกับของกองทัพภาคที่ 2

เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ หัวหน้าคสช.

เพราะ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กำกับและดูแลงานด้านความมั่นคง

“กลุ่มสามมิตรสัญจร” จึงสามารถทำได้เหมือนกับ “ครม.สัญ จร”

ไม่ขัดประกาศคสช.ฉบับที่ 57/2557

ยิ่งกว่านั้น ยังไม่ขัดคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 3/2558 ที่ห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน

ไม่ถือว่า”กลุ่มสามมิตร”หาเสียง สร้างฐานทางการเมือง

ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ว่า พรรคชาติไทยพัฒนา

อย่าได้บังอาจไปอิจฉา “กลุ่มสามมิตร”

เพราะว่า”สามมิตร”เสมอเป็นเพียง”กลุ่มการเมือง” มิได้เป็น พรรคการเมืองอย่าง พรรคประชาธิปัตย์ พรรครวมพลังประชาชาติไทย พรรคชาติไทยพัฒนา

จึงรอดปลอดพ้นประกาศและคำสั่งคสช.ตลอดแนว แม้กระทั่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 ก็เอื้อมไม่ถึง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน