ต้องยอมรับว่า การออกโรงของ”กลุ่มสามมิตร” ดำเนินไปอย่างท้า ทายต่อพรรคการเมืองอื่นๆอย่างชนิดตรงตัว

ไม่เพียงแต่เดินสายใช้ “พลังดูด”

หากแต่ยังร้องตะโกนด้วยเสียงอันดังต่อทุกพรรคการเมือง

ผ่านท่วงทำนองอันเปิดเผย ตรงไปตรงมา

“เมื่อไม่ผิดแล้วจะบอกให้ผมหยุดได้อย่างไร”

คำถามก็คือ ทำไมกลุ่มและพรรคการเมืองอื่นไม่ทำบ้าง จะมัวมาเสียเวลาเอะอะโวยวายอยู่ทำไม

ในเมื่อทาง”คสช.”ก็ยืนยันแล้วว่า “ไม่ผิด”สามารถทำได้

เพียงแต่ไม่กระทำในนามของ”พรรคการเมือง” ไม่กระทำในฐานะสมาชิก”พรรคการเมือง”เท่านั้น

นี่คือช่อง นี่คือประตูที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ชี้แนะ

พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา อาจไม่สะดวกที่จะเคลื่อนไหวนามของพรรค

ยิ่งพรรคเพื่อไทยยิ่งต้องมากด้วยความระมัดระวัง

เพราะเพียงแต่มีการสไกป์ระหว่างอดีตส.ส.ของพรรคกับ นายทักษิณ ชินวัตร โดยมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยืนเรียงอยู่เคียงข้าง ก็มีคำสั่ง”ลับ”ให้กกต.ดำเนินการแล้ว

แต่คำถามก็คือ พรรคเหล่านี้มีสมาชิกเรือนแสนถึงเรือนล้านที่ยังไม่ได้ยืนยันการเป็นสมาชิก

ยิ่งพรรคประชาธิปัตย์ยิ่งมีมากมหาศาล

อดีตส.ส.หรืออดีตสมาชิกเหล่านั้นย่อมมีสถานะทางการเมืองเช่นเดียวกับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

ย่อมสามารถเคลื่อนไหวในฐานะ”กลุ่ม” หรือ”ชมรม”ได้เหมือนกับที่ “กลุ่มสามมิตร”กำลังทำอยู่

การเดินสาย สัญจรไปพบกับคนที่เคยรู้จักกันย่อมทำได้

ตามความจัดเจนจากหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มายังเดือนสิงหาคม 2561 อาจประเมินได้ว่า คสช.คงไม่ยอมให้ทำเช่นนั้นได้

แต่คำถามที่ตามมาก็คือ แล้ว “กลุ่มสามมิตร”ทำไมทำได้

เป็นการทำได้โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาการันตีด้วยซ้ำ

การเลียนแบบ”กลุ่มสามมิตร”จึงไม่น่าจะเป็นเรื่องผิด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน