แม้จะมีความพยายามและความเคลื่อนไหวของเหล่าบริษัทบริวาร คสช. ที่พยายามจะทำให้การเลือกตั้งทั่วไปเลื่อนกำหนดออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ 2562
จนทำให้ความเชื่อมั่นในกำหนดการเลือกตั้งซึ่งถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีกมาหลายครั้ง ยิ่งสั่นไหวคลอนแคลน
แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็มีความเคลื่อนไหวอย่างน้อย 2-3 ประการที่ส่อเค้าว่าการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไปอาจจะไม่ได้อยู่ไกลอย่างที่กังวล
ความเคลื่อนไหวนั้นก็คือการออกเดินสาย “ดูด” อย่างเปิดเผยและเร่งด่วนของกลุ่มสามมิตร และการลงพื้นที่พบปะประชาชนอย่างเป็นกันเองชนิดถี่ยิบ
ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.
กลุ่มสามมิตรนั้นยกไว้ ในฐานะกลุ่มการเมืองที่เคยชินกับการรับใช้ผู้มีอำนาจ ย่อมเป็นภาระหน้าที่ที่จะต้องพิสูจน์ตัวเองให้เห็นก่อนการเลือกตั้ง เพื่อจะรอรับการ “ตบรางวัล” เมื่อการเลือกตั้งผ่านไป
แต่การเดินสายของพล.อ.ประยุทธ์นั้นน่าสนใจยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นการลงพื้นที่กับครม.สัญจรใน เขตต่างจังหวัด หรือการออกตรวจงานในกรุงเทพมหานคร ที่มีความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด
จากการอารักขาคุ้มครองอย่างเข้มแข็ง ให้ภาพผู้นำกองทัพ-ผู้นำรัฐประหารที่สูงส่ง กลายเป็นการเปิดกว้าง-ใกล้ชิดกับประชาชนอย่างเป็นกันเองชนิดถึงเนื้อถึงตัว ไม่ผิดอะไรกับภาพนักการเมืองเดินสายหาเสียง
หาเสียงก่อนการเลือกตั้ง
แต่ถ้าเชื่อว่าการเลือกตั้งอยู่ไม่ไกลจากนี้ไป การเคลื่อนไหวทั้งของพล.อ.ประยุทธ์ และกลุ่มสามมิตร ในฐานะนักการเมือง ในฐานะ ผู้อาสาเสนอตัวเข้ามารับใช้ประชาชน ย่อมเป็นความปกติ
กระนั้น หากต้องการให้ความปกติที่แท้จริงเกิดขึ้นในสังคม อิสรภาพของการเคลื่อนไหวและการแสดงความคิดเห็นได้อย่างเสรีนั้นควรเกิดขึ้นอย่างเสมอภาคกันกับทุกฝ่าย
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่สนับสนุน คสช. หรือฝ่ายที่มีจุดยืนอยู่ด้านตรงข้าม
เพราะสภาพ “สองมาตรฐาน” นั้น พิสูจน์ให้เห็นมาตลอดแล้วว่ามีแต่จะสร้างและขยายปัญหาความขัดแย้งให้แตกแยกหนักข้อยิ่งขึ้น
ความเสมอภาคเท่าเทียมต่างหากที่จะคืนความปกติได้
