แต่ละรายชื่อที่หลุดจากปาก”ร็อกเกอร์”ดัง ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงชม ชอบ ไม่ว่าจะเป็นน้ำเสียงชิงชัง
ล้วนก่อให้เกิดความหวาดเสียว
ก่อนหน้านี้อาจเป็นการพุ่งปลายหอกเข้าใส่เจ้าของสื่อระดับ ใหญ่ยักษ์ อดีตนายกรัฐมนตรีบางคน และเพื่อนพ้องบางคน
เป็นน้ำเสียงที่โน้มเอียงไปในทางชิงชัง
ขณะเดียวกัน ต่อมาก็แสดงการสนับสนุน ยกย่อง ต่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
และรวมถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ผลซึ่งตามมาก็คือ บังเกิดภาวะวูบไหวดังกึกก้องกลายเป็นพาดหัวของสื่อ
เหตุใดทั้งน้ำเสียงชมชอบและชิงชังอันดังมาจากปากของ”ร็อกเกอร์” นามระบือจึงกลายเป็นปัญหา
เมื่อได้ยินก็อาจต้อง”หลบตา”
แม้ว่าภายในทั้งความชมชอบและความชิงชังก็ใช่ว่าจะขาดไร้ซึ่ง “ข้อมูล”โดยสิ้นเชิง
ตรงกันข้าม สะท้อนความสัมพันธ์ที่เคยมี
เมื่อมีความสัมพันธ์ก็ย่อมจะมีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและเรื่องที่ไม่เห็นด้วย
ตรงนี้แหละที่กลายเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
บทบาทของ”ร็อกเกอร์”ชื่อดังจึงเข้าลักษณะสำนวนไทยที่ว่า กินในที่”ลับ” แต่เผยในที่”แจ้ง”
สร้างความหนักใจมากกว่าจะสบายใจ
เพราะความไม่แน่นอนก็คือ วันนี้อาจชมชอบ แต่วันพรุ่งอาจชิงชังก็เป็นได้
นั่นเพราะอยู่บนฐานแห่ง”อารมณ์”
ท่าทีและการแสดงออกของ”ร็อกเกอร์”ดังอยู่ในความสนใจของสังคมอย่างแน่นอน
เพียงการไลฟ์”มาราธอน”ก็เป็น”ข่าว”แล้ว
นี่ยังเป็นการพาดพิงถึงบุคคลประเภท”เซเล็บ”ทั้งในวงการเมือง วงการบันเทิง ทั้งระดับแฟนเพลงธรรมดากระทั่งอดีตนายกรัฐมนตรี และนายกรัฐมนตรี
เพียงแต่ว่าน้ำหนักและความน่าเชื่อถือมีระดับใดเท่านั้น