กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ แจ้งถึงสถานการณ์ส่งออกข้าวปี 2561 ที่นับว่าเป็นข่าวดีสำหรับผลผลิตการเกษตรสำคัญนี้ของประเทศ

เพราะตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-16 ส.ค. ส่งออกได้แล้วปริมาณ 7.1 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 2.6 คิดเป็นมูลค่า 113,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 11

ขณะเดียวกัน คต.ยังประกาศเงื่อนไขการประกวดราคา หรือทีโออาร์ สำหรับระบายข้าวล็อตสุดท้ายในสต๊อกของรัฐบาล

ประกอบด้วย ข้าวสารกลุ่มที่ 2 เข้าสู่อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคน 245,000 ตัน และข้าวสารกลุ่มที่ 3 ข้าวสารสำหรับอุตสาหกรรมที่ไม่ใช่การบริโภคของคนและสัตว์ 22,300 ตัน ครั้งที่ 2/2561

กระบวนการต่างๆ เหล่านี้จะเสร็จสิ้นวันที่ 29 ส.ค.

เจ้าหน้าที่กรมการค้าต่างประเทศ ระบุว่าหากระบายข้าวได้ทั้งหมดจะถือว่าเป็นการเคลียร์ข้าวที่มาจากโครงการรับจำนำข้าวจากทั้งหมดกว่า 18 ล้านตันได้หมดสต๊อก

ทั้งมั่นใจว่าครั้งนี้จะทำได้สำเร็จ เนื่องจากเป็นช่วงที่ธัญพืชชนิดอื่นๆ ยังไม่ออกสู่ตลาดและมีราคาสูง จึงคาดว่าจะประมูลขายข้าวทั้ง 2 กลุ่มได้ราคาดีและไม่ต่ำกว่าครั้งก่อน

ผลงานการทำงานทั้งหมดนี้เผอิญเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกับที่มีผู้ตั้งคำถามเรื่องโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดก่อน โดยยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงการคลังขอให้ตรวจสอบว่าเหตุใดไม่มีตัวเลขผลขาดทุนจากการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าวอยู่ในรายงานการเงินแผ่นดิน ณ วันที่ 30 ก.ย.2557

เพื่อต้องการขอทราบความชัดเจนถึงที่มาที่ไปในตัวเลขขาดทุนสะสม 536,908 ล้านบาท

เนื่องจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดก่อนเป็นการอุดหนุนเกษตรกรครั้งใหญ่ที่สุด ครั้งหนึ่ง

ขณะที่โครงการถูกตัดสินว่าเป็นจุดบกพร่องในการใช้เงินงบประมาณจากรัฐ จึงควรศึกษาให้ชัดเจนว่า ปริมาณเงินที่เข้าบัญชีธนาคารของเกษตรกรแต่ละราย เงินที่ไหลเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจของประเทศ เงินที่ได้จากการขายข้าวทั้ง 18 ล้านตันจนหมดสต๊อก และเงินที่รั่วไหลเพราะการทุจริต มีตัวเลขที่แท้จริงเป็นอย่างไร

เพื่อจะประเมินผลได้ผลเสียให้ชัดไว้ใช้สำหรับการบริหารจัดการข้าวที่เกษตรกรจะได้ประโยชน์สูงสุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน