บทบรรณาธิการ : ทัศนคติต่อผู้หญิง

คดีอาชญากรรมความรุนแรงในครอบครัว หรือความรุนแรงต่อสตรีหลายคดีในช่วงเวลานี้บ่งบอกว่า ทัศนคติและความคิดของสังคมชายเป็นใหญ่ยังคงเข้มข้นอยู่

คดีที่สามีต้องการคืนดีภรรยาแต่ถูกปฏิเสธ จึงทำร้ายหรือสังหารฝ่ายหญิง คดีทำร้ายร่างกายหรือสังหารเพราะความหึงหวง ปรากฏอยู่สม่ำเสมอ

รวมถึงคดีล่าสุดที่อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างกว้างขวาง เมื่อนักธุรกิจเจ้าของกิจการสถานบันเทิงก่อเหตุสังหารหนุ่มสาววัยรุ่นคู่หนึ่งเสียชีวิตใกล้บริเวณวัดเขาชีจรรย์ จ.ชลบุรี

เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลา 3 สัปดาห์ตามจับกุมมาได้ และสอบสวนพบสาเหตุมาจากผู้ต้องหาทุ่มเงินจำนวนมากให้เหยื่อแต่กลับไม่เป็นไปตามหวัง

เป็นอีกคดีที่ย้ำถึงการใช้ความรุนแรงจากความคิดว่าผู้หญิงเป็นสมบัติอย่างหนึ่ง

ความคิดที่ผู้ชายเป็นเจ้าของผู้หญิง หรือเห็นผู้หญิงมีสถานะทางสังคมที่ด้อยกว่านั้นเป็นเรื่องที่ต้องยอมรับสภาพความเป็นจริงว่ายังคงมีผลให้เกิดคดีใช้ความรุนแรงอยู่ในปัจจุบัน แม้ว่าจะมีองค์ประกอบอื่นๆ เช่น กฎหมายและการรณรงค์ที่ส่งเสริมสถานภาพสตรีและความเท่าเทียมชายหญิง

การยอมรับสภาพความเป็นจริงจะช่วยทำให้คนในสังคมร่วมกันคลี่คลายหรือบรรเทาปัญหาลงได้ โดยไม่ปัดฝุ่นไว้ใต้พรม

การปรับเปลี่ยนทัศนคติดังกล่าวต้องเริ่มตั้งแต่สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา สถานที่ทำงาน ไปจนถึงสถาบันทางการเมือง

การกระตุ้นให้ชายหญิงและเพศอื่นๆ เคารพความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกันทำได้หลายทางในชีวิตประจำวัน ทั้งการปฏิบัติและการใช้วาจาที่ต้องให้เกียรติกัน

ขณะเดียวกันผู้ที่เป็นผู้นำทางสังคมควรแสดงตนให้เป็นตัวอย่างและระมัดระวังคำพูด

แม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่อาจมองข้ามเช่นการพูดให้เดินตามพ่อปูดีกว่าแม่ปูนั้น ก็อาจสุ่มเสี่ยงให้เกิดคำถามเรื่องความเท่าเทียมชายหญิงได้

เนื่องจากหลายๆ กรณีที่ผู้หญิงเป็นผู้นำมักจะเผชิญกับทัศนคติและถ้อยคำอันไม่เป็นมิตรและไม่ให้เกียรติมาก่อน

การจะปรับเปลี่ยนความคิดให้เคารพต่อคนทุกเพศนั้นต้องตระหนักอย่างจริงจัง