พ่อปูจัดระเบียบเด็ก คอลัมน์ ใบตองแห้ง

 

กระทรวงศึกษาออกกฎเหล็ก ห้ามเด็กนักเรียนนักศึกษามั่วสุม ก่อให้เกิดความไม่สงบเรียบร้อย ขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน ห้ามแสดงพฤติกรรมทางชู้สาวซึ่งไม่เหมาะสม โดยไม่จำกัดสถานที่ จากเดิมที่ห้ามเฉพาะที่สาธารณะ ต่อไปนี้ เจ้าหน้าที่เข้าไปสอดส่องในที่ลับตา เช่นในหอพักก็ยังได้ รวมถึงที่เคยห้ามออกนอกที่พักเพื่อเที่ยวเตร่หรือรวมกลุ่ม ในเวลากลางคืน ต่อไปนี้ก็ห้ามหมด แม้แต่กลางวันแสกๆ

หลังจากสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาออกมาประท้วง รัฐมนตรีและผู้หลักผู้ใหญ่ในกระทรวงก็บอกว่า ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่ได้ห้ามทำกิจกรรม เพราะขืนทำ ก็ผิดคำสั่ง คสช.อยู่ดี กฎนี้ใช้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ไม่ครอบคลุมนักศึกษาส่วนใหญ่ มุ่งใช้กับเด็กแว้นเด็กสก๊อย มั่วสุมเสพยา ยกพวกตีกัน ฉะนั้น ไม่รู้ สนท.ประท้วงทำไม

“ไม่ได้ทำผิดไม่เห็นต้องกลัวอะไร” ใช่เลยครับ พูดอย่างนี้ทุกที เวลารัฐราชการไทยออกกฎหมาย ระเบียบ คำสั่ง ให้อำนาจเจ้าหน้าที่อย่างกว้างขวาง ครอบจักรวาล หยุมหยิม จุกจิก แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้จริง แล้วก็ไปเลือกบังคับใช้เฉพาะกรณี ตามกระแส ตามอคติสุคติทางการเมืองหรือศีลธรรม

ถามจริง อะไรคือมั่วสุม ไม่สงบเรียบร้อย ขัดต่อศีลธรรมอันดี เที่ยวเตร่รวมกลุ่มในเวลากลางวัน ฯลฯ ภาษากฎหมายกว้างมาก ยากชี้ว่าใครผิดไม่ผิด อยู่ที่อำนาจวินิจฉัยเท่านั้น

แล้วที่พยายามจะเป็นนายตรวจศีลธรรม จะไปสอดส่องนักเรียนจู๋จี๋กันในหอพัก ในที่รโหฐาน ข้อแรก ท่านทำได้จริงหรือ ข้อสอง ละเมิดสิทธิส่วนบุคคลถึงขนาดนั้น ติดกล้องแอบถ่ายเลยไหม

ข้อสำคัญ นี่มัน พ.ศ.อะไร ยังคิดจะย้อนยุควิคตอเรียน ห้ามเด็กมีความรัก มีเพศสัมพันธ์ ทั้งที่รู้ว่าห้ามไม่ได้ ตัวเลขเด็กท้องในวัยเรียนมีเป็นแสน เพราะอะไร เพราะทัศนะจารีตนิยมไทยเอาแต่ห้าม เอาแต่ปิดกั้น ความรักเป็นสิ่งต้องห้าม เพศสัมพันธ์เป็นเรื่องสกปรก ฯลฯ เอาเข้าจริงห้ามธรรมชาติไม่ได้ เด็กก็เตลิดเปิดเปิงโดยไม่รู้จักป้องกัน

ถามว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับการเมืองไหม เกี่ยวนะครับ แม้ไม่เกี่ยวโดยตรง ไม่ได้มุ่งห้ามกิจกรรมการเมือง แต่การจัดระเบียบนักเรียนนักศึกษา ก็เป็นภารกิจสำคัญของรัฐประหาร ซึ่งต้องการให้คนรุ่นใหม่ว่านอนสอนง่าย เดินตามพ่อปูโดยไม่ตั้งคำถาม

อย่างน้อยที่สุด รัฐบาล คสช.ก็มีภารกิจต้องเอาใจฐานเสียง คือคนชั้นกลางอนุรักษ์นิยม ผู้คลั่งความเป็นไทยและความเป็นคนดี มองคนรุ่นหลังว่ามันเลวลงไปเป็นรุ่นๆ ต้องปลูกฝังให้เป็นคนดีมีศีลธรรม เชื่อฟังผู้ใหญ่ อยู่ในระเบียบวินัย แบบเอาทหารมาฝึก ตั้งแต่ ร.ร.สาธิต ถึงมหาวิทยาลัย

ยิ่งไปกว่านั้น ระบอบ คสช. ระบอบรัฐธรรมนูญ 2560 ซึ่งย้อนยุคถอยหลังประชาธิปไตย จำกัดเสรีภาพในการแสดงออก ยังขัดแย้งโดยธรรมชาติ กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเติบโตมาในโลกไร้พรมแดน

4 ปีมานี้ คสช.กดเสื้อแดงในชนบทได้ แต่ต้องเผชิญกับประชาธิปไตยใหม่ ไผ่ ดาวดิน กลุ่มคนอยากเลือกตั้ง ซึ่งแม้ดูเหมือนมีแค่หยิบมือ แต่ประชามติไม่รับร่าง รธน.ชนะท่วมท้นทุกแคมปัส ธรรมศาสตร์ล้อการเมืองในฟุตบอลประเพณีเจ็บแสบทุกปี เนติวิทย์ผงาดเป็นประธานสภานิสิตจุฬาฯ

คสช.จึงหวาดกลัวคนรุ่นใหม่ โดยในขณะเดียวกัน ก็พยายามปลูกฝังให้คนรุ่นใหม่เติบโตมาตามแบบที่รัฐต้องการ จำพวกสตาร์ทอัพ AI นำประเทศไทยไปสู่ 4.0 เก่งวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี “คิดเป็น” มีหัวคิดอันปราดเปรื่องเรื่องงานวิจัย แบบที่เอาเฌอปราง BNK ไปเป็นพรีเซนเตอร์

แต่ในขณะเดียวกันก็อยากให้เด็กไทยหัวอ่อน เชื่อฟัง ผ้าพับไว้ และที่สำคัญต้องไม่ต่อต้านหรือตั้งคำถามกับผู้มีอำนาจ

รัฐอนุรักษ์นิยมไทยฝากความหวังให้คนรุ่นใหม่เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพื่อแบกอนาคตประเทศ และสังคมสูงวัยในภายหน้า ขณะเดียวกันก็บีบคั้นให้คนรุ่นใหม่เป็นคนดี มีความรับผิดชอบสูง ขยัน อดทน ซื่อสัตย์ กตัญญู เรียนหนังสือก็อย่ามีเรื่องชู้สาว เรียนอาชีวะก็อย่ายกพวกตีกัน ตั้งใจเรียนให้จบ ออกมาสร้างเนื้อสร้างตัว

คืออยากให้เป็นคนดีทุกอย่าง อยากให้คิดเป็น เรื่องทำมาหากิน แต่อย่าคิดเรื่องความเหลื่อมล้ำ ความไม่ยุติธรรม ความไม่เป็นธรรม อย่าหือกับโครงสร้างอำนาจ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่ครอบไว้ให้แล้ว

ที่จริงก็คล้ายหลัง 6 ตุลา หลังปราบความคิดกบฎของคนรุ่นนั้น ก็เข้าสู่ยุคมหาวิทยาลัยวัยหวาน ผลิตมนุษย์เงินเดือนป้อนทุนนิยมเบ่งบาน

แต่ยุคนี้สมัยนี้ ระบอบฝืนโลกยิ่งบีบคั้นกว่า นอกจากไม่อยากให้คนรุ่นใหม่สนใจการเมือง อยากให้แบกภาระเศรษฐกิจ แล้วยังจะให้เป็นคนดีมีศีลธรรมภูมิใจในความเป็นไทย อีกต่างหาก

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน