นอกเหนือจากกรณี นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุขและพวก นอกเหนือ จากกรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ แล้ว
ยังมีความไม่แน่นอนในเรื่อง “พลังดูด”
หากฟังจากน้ำเสียงของ นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ก็จะเข้าใจเหตุผลว่าทำไมจึงไม่อาจหวนคืนไปยังพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน
เช่นเดียวกับกรณีของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ซึ่งมากด้วยดราม่า
ยิ่งออกตัวแรง ยิ่งหวนกลับยากลำบาก
กระนั้น กว่าจะถึงการเลือกตั้งในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 เส้นทางยังอยู่อีกหลายเดือน
การพลิกผันแปรเปลี่ยนยังสามารถเกิดขึ้นได้
ต้องยอมรับว่าการแก้เกมด้วยการส่งเสียงไม่ว่าจะจากลอนดอน ไม่ว่าจะจากสิงคโปร์ และล่าสุดจากฮ่องกง
เริ่มสำแดงพลานุภาพอย่างลึกซึ้ง
เท่ากับตรึงหมุดที่เคยคลายในบางพื้นที่ให้เกิดสภาพหยุดนิ่ง ไม่เคลื่อนไหว
เพราะมีบทเรียนอย่างเด่นชัดมาแล้ว
ไม่ว่าจะจากการเลือกตั้งเดือนมกราคม 2544 ไม่ว่าจะจากการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ไม่ว่าจะจากการเลือกตั้งเดือน ธันวาคม 2550 ไม่ว่าจะจากการเลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554
แม้ดูเหมือนจะเป็น “ฐานข้อมูล”เก่า กระนั้น กระทั่งฝ่ายตรงข้ามก็ยังยอมรับ
ไม่ว่าจะเป็น “คสช.” ไม่ว่าจะเป็น “ประชาธิปัตย์”
ยิ่ง “นายห้าง”ตราใบห่อนั่งมองมาจาก “ต่างแดน” ยิ่งมองเห็นอะไรกว้างไกล
เข้าทำนอง “เบิร์ด อาย วิว”ทาง “การเมือง”
ข่าวที่ว่ามี “อดีต”รัฐมนตรีบางคนพยายามต่อสายเพื่อหวนคืนไปยังพรรคเพื่อไทยจึงไม่น่าจะเป็นข่าวปล่อยอย่างเลื่อนลอย
หากแต่มีความเป็นจริงรองรับ
เรื่องอย่างนี้คนระดับ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน คนระดับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ย่อมรู้อยู่เป็นอย่างดี คนหลังจึงค่อยทำตัวในแบบลดบทบาทลงเป็นลำดับ
ทุกอย่างล้วนดำเนินตามหลัก “การศึกมิหน่ายเล่ห์”
