คสช.เตรียมคลายล็อก 6 ข้อ 9 เรื่องให้พรรคการเมืองดำเนินการด้านธุรการได้ แต่ต้องรอหลังพ.ร.ป.เลือกตั้งส.ส.และพ.ร.ป.การได้มาซึ่งส.ว.มีผลบังคับใช้

แต่ยังไม่ยอมปลดล็อกทั้งหมด เพื่อเปิดพื้นที่ให้ชุมนุมทาง การเมือง

สัญญาณดังกล่าวจากคสช.เกาถูกที่คันหรือไม่ ล่าช้าเกินไปหรือเปล่า

มีความเห็นจากนักวิชาการและนักการเมือง

1.นิกร จำนง

ผู้อำนวยการพรรคชาติไทยพัฒนา

ทั้ง 9 เรื่องดูเผินๆเหมือนจะคลี่คลายไปได้ระดับหนึ่ง แต่ในความเป็นจริงแล้วต้องมีรายละเอียดอยู่มาก เช่น การให้ประชุมพรรคยังไม่ชี้ชัดว่าจะแก้ไขอะไรบ้าง พรรคยังเกิดความกังขาอยู่ว่าจะเป็นอย่างไร อาจทำให้เราดำเนินการอะไรไม่ถูก

เช่นที่ระบุว่าให้หัวหน้าสาขาพรรคเป็นองค์ประชุม แต่ในความเป็นจริงเราไม่มีหัวหน้าสาขาพรรคเลย เพราะสาขาพรรคถูกเซ็ตซีโร่หายไปหมดแล้ว ดังนั้นต้องปลดเรื่องนี้ออก เพื่อให้ไม่มีหัวหน้าสาขาพรรคร่วมเป็นองค์ประชุม อาจใช้ คำสั่งมาตรา 44 ซ้ำลงไปเพื่อแก้กฎหมาย

ตัวแทนประจำจังหวัดก็มีปัญหาอีก เพราะที่สนช.เขียนไว้คือตัวแทนเขตที่เป็นตัวแทนประจำจังหวัดตามบทเฉพาะกาล การจะได้ตัวแทนประจำจังหวัดได้ต้องเคาะเขตเลือกตั้งก่อน แต่ขณะนี้หากคลายล็อกให้ดำเนินการแบ่งเขตเลือกตั้งได้ก็ต้องใช้เวลาอีก 60 วัน

ดังนั้น 90 วันที่ให้พรรคดำเนินการคงทำไม่ได้เนื่องจากองค์ประชุมไม่ครบ และต้องฟังเสียงประชาชน ขอความคิดเห็นจากพรรคอีกมากมาย โดยเป็นการทำหลังกฎหมายบังคับใช้แล้ว ก็ต้องใช้มาตรา 44 ให้ทำได้เลยเพื่อให้ดำเนินการแบ่งเขตได้ทันที

มีทางเลือกอยู่สองทางคือ ยกตัวแทนประจำจังหวัดออกไปจากองค์ประชุมใหญ่พรรค ควรกลับไปใช้ฉบับของกรธ.ที่เขียนไว้ชัดเจน การพัฒนาพรรคสามารถมีสมาชิก 500 คนในการเป็นสาขาพรรค ถ้า 100 กว่าคนให้เป็นตัวแทนประจำจังหวัดไม่ใช่ตัวแทนประจำเขต

ส่วนไพรมารีหากต้องมีกรรมการ 11 คนคงไม่ใช่ไพรมารี ถ้าจะยังทำอยู่ก็ควรกลับไปยึดร่างของนายมีชัย คือไม่มีไพรมารีแต่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญเพราะสมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางแล้ว

อีกเรื่องหนึ่งที่จะมีปัญหาคือการห้ามหาเสียงแต่ให้หาสมาชิกพรรค เหมือนการปล่อยม้าแข่งทุกคนต่างวิ่งออกไปหาสมาชิกและแข่งขันกันเพื่อจะบอกว่านโยบายพรรคใครดีกว่ากันก็คือการหาเสียง เพียงแต่หาเสียงกับประชาชนเพื่อให้มาเป็นสมาชิกพรรค

เส้นแบ่งการหาเสียงกับการชี้แจงนโยบายพรรคมันคาบเกี่ยวกัน คสช.และกกต.ปวดหัวแน่ เตรียมรับมือได้เลย

การรอให้กฎหมายสองฉบับประกาศใช้แล้วคลายล็อกเป็น ข้อตกลงเดิม จากที่หารือเวลาสั้นลงๆ ถ้าเลือกตั้ง 24 ก.พ. 2562 ถ้าเวลาเหลือแค่นี้การคลายล็อกก็อาจคลายให้หลวมกว่าเดิม เพราะเวลาเหลือน้อยกว่าที่คุยกันไว้

2.วิรัตน์ กัลยาศิริ

หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์

ภาพรวม 6 ประเด็น 9 เรื่องที่คสช.จะคลายล็อกนั้น คสช.ใช้เวลา 90 วันก่อนพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มีผลบังคับมาใช้ โดยภายใน 60 วันแรกเป็นเรื่องที่กกต.และพรรคการเมืองแบ่งเขตเลือกตั้งให้ได้ 350 เขต

ส่วน 30 วันหลังเป็นเรื่องที่คณะกรรมการสรรหา 11 คนสรรหา ผู้สมัครในแต่ละเขต โดยลงไปรับฟังความคิดเห็นแต่ละพื้นที่แทนการทำ ไพรมารีโหวต ถือว่าได้ตอบสนองเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 2560 ได้ ระดับหนึ่ง

ไพรมารีแบบนี้ถ้าการสรรหามีคุณภาพและสรรหาไปตามเนื้อผ้าโดยไม่มีใบสั่งก็ถือว่าเป็นการทำไพรมารีชนิดหนึ่ง และดีกว่าเป็นรายภาคอย่างที่เคยเสนอกัน ซึ่งดูแล้วตลกและเป็นปาหี่ เพราะเป็นการเน้นรูปแบบมากกว่าเนื้อหาและจะไม่ได้อะไรเลย

ส่วนการคลายล็อกแก้ปัญหาตรงจุดหรือไม่นั้น ในระยะเร่งด่วนการทำแบบนี้ก็ถือว่าดีที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว แต่สิ่งสำคัญที่ทุกพรรคอยากได้มานานแล้ว คือให้พรรคจัดการประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรคได้ เพื่อจะได้บอกพี่น้องประชาชนได้รับรู้และตัดสินใจเลือก

สำคัญที่สุดฐานของพรรคการเมืองคือสมาชิกพรรค พรรคจะเข้มแข็งได้หรือไม่อยู่ที่ปริมาณและคุณภาพของสมาชิก ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุดคือ ควรแบ่งเขตเลือกตั้งเพื่อให้พรรครู้พื้นที่เพื่อหาสมาชิกให้ได้เกิน 500 คนจะได้จัดตั้งสาขาพรรค

3.พนัส ทัศนียานนท์

อดีตคณบดีคณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์

ส่วนตัวเคยให้ความเห็นไว้นานแล้วว่าต้องปลดล็อกให้หมด ไม่เช่นนั้นจะทำให้เกิดปัญหาในแง่การปฏิบัติของพรรคการเมือง และทำให้เกิดความลักลั่นระหว่างพรรคเก่ากับพรรคใหม่ พรรคใหม่ดำเนินกิจกรรมต่างๆได้ พรรคเก่าทำไม่ได้ เหมือนให้พรรคเก่าต่อให้พรรคใหม่ซึ่งไม่ยุติธรรม

หากการปลดล็อกครั้งนี้เพื่อให้พรรคการเมืองเตรียมการก่อนการเลือกตั้งเพื่อนำไปสู่ประชาธิปไตยก็ควรจะปลดล็อกทั้งหมด เว้นแต่ข้อที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในสังคมได้ เช่น การชุมนุมทางการเมืองเป็นเรื่องที่ยังไม่ควรเกิดขึ้น เพื่อให้ทุกอย่างเข้าที่เข้าทางและนำไปสู่การเลือกตั้งได้

แต่การประชุมใหญ่ของพรรคต้องทำได้ รวมถึงการประชุมสาขาพรรค ไม่เช่นนั้นปลดล็อกไปก็เหมือนทำอะไรไม่ได้ การเลือกตั้งควรต้องเตรียมการทั่วประเทศ

อย่างไรก็ตาม แม้การส่งสัญญาณครั้งนี้ของรัฐบาลว่าจะปลดล็อกดูเหมือนช้าไป แต่ก็เป็นเรื่องที่ทุกคนควรยินดีที่มีสัญญาณออกมา

เชื่อว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นช่วงเดือนก.พ.ปีหน้า จะไม่เลื่อนแล้ว การส่งสัญญาณครั้งนี้ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ค่อนข้างชัดเจนว่าเป็นเดือนก.พ.62 แน่นอน

อีกทั้งคิดว่ามีอะไรบางอย่างที่บ่งบอกว่าเขาไม่มีสิทธิเลื่อนอีกแล้ว ข่าวล่าสุดที่ปรากฏก็บอกว่าไม่เลื่อนแต่ที่ยังกั๊กอยู่เรื่องการปลดล็อกเพราะเขาต้องการจะเอาเปรียบเท่านั้น

ไม่จำเป็นต้องใช้มาตรา 44 เพียงแค่พล.อ.ประยุทธ์ ยกเลิกคำสั่งคสช.แต่ละเรื่องแค่นั้นก็ทำได้ โดยที่ไม่ต้องใช้มาตรา 44 ให้ยุ่งยาก เว้นแต่กรณีของกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญที่มีผลบังคับใช้แล้ว ก็ใช้มาตรา 44 แก้ไขได้

อย่างน้อยการส่งสัญญาณคลายล็อกพรรคก็ทำให้หายใจได้โล่งขึ้นแม้ยังไม่ทั้งหมด ทำให้รู้สึกดีต่อคน ที่รอที่หวังอยู่ว่าจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นและกลับสู่ประชาธิปไตยโดยเร็ว เพื่อที่ปัญหาต่างๆจะได้รับ การแก้ไข

4.สุขุม นวลสกุล

อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง

แนวโน้มการใช้มาตรา 44 คลายล็อกให้พรรคดำเนินกิจกรรมทางการเมืองบางส่วนยังเกาไม่ทั่ว เกาไม่ถูกที่คัน พรรคการเมืองต้องการหาเสียง ซึ่งต้องยกเลิกคำสั่งห้ามชุมนุมทางการเมืองถึงจะเป็นไปตามกระแสที่ฝ่ายการเมืองเรียกร้อง

มาตรการ 6 ข้อ 9 เรื่องเพื่อคลายล็อก สะท้อน ว่าคสช.กลัวเรื่องการชุมนุม กลัวการขยับของพรรคการเมืองในการลงไปหาเสียง ทำให้เห็นเด่นชัดว่า คสช.เอาเปรียบคนอื่น เพราะสามารถเดินสายลงพื้นที่หาเสียงได้อยู่กลุ่มเดียว

ก็แน่นอนว่าเป็นไปตามที่หลายพรรคประเมินว่าคสช.กลัวแพ้เลือกตั้ง ทำแบบนี้ก็ตอกย้ำว่าไม่มั่นใจ จึงต้องมัดมือมัดเท้าคนอื่น

หนึ่งในประเด็นสำคัญของการคลายล็อกอย่างการทำไพรมารีโหวตก็ทำท่าจะปรับแก้ แต่สุดท้ายไพรมารีโหวตของคสช.ก็จะเป็นเพียงพิธีกรรม ไม่สะท้อนถึงเจตนารมณ์ที่แท้จริงของไพรมารีโหวตที่อยากให้เกิด การมีส่วนร่วมทางการเมือง ทำให้ฐานรากของสมาชิกพรรคในทุกจังหวัด มีสิทธิเลือกผู้ลงสมัครส.ส. ไม่ใช่ให้กรรมการบริหารหารพรรคเป็นคนเคาะ

หากจะแก้ให้เหลือรายจังหวัดหรือรายภาคก็ไม่ได้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงอะไร ซึ่งพรรคใหญ่บางพรรคก็มีความพร้อมต่อระบบไพรมารีแล้ว ทำกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แง่หนึ่งสะท้อนถึงกรอบเวลาสำหรับการเลือกตั้งปีหน้าว่า จะเตรียมตัวกันไม่ทันจึงนำไปสู่การปรับแก้ให้รวบรัด

มาตรการคลายล็อกจึงเป็นเพียงการซื้อเวลาและ สร้างภาพให้คสช.เอง ทำท่าเหมือนเป็นการให้โอกาส แต่สิ่งที่พรรคต้องการจริงๆแล้วคือปลดล็อกให้เกิดการหาเสียงได้อย่างเท่าเทียมกัน

การคลายล็อกเพื่อสร้างความได้เปรียบให้ตัวเอง สุดท้ายแล้วก็จะไม่ทำให้คสช.ได้เปรียบในทางปฏิบัติ กลับกันจะยิ่งทำให้คสช.เสียความน่าเชื่อถือมากขึ้นไปอีก

จริงอยู่การเคลื่อนไหวของพรรคหรือกลุ่มที่สนับสนุนคสช.สามารถทำอะไรก็ได้ แต่พรรคและฝ่ายการเมืองที่ติดล็อกก็จะนำความเสียเปรียบนี้มาโจมตีคสช.อยู่ตลอดเวลา

5.ชูศักดิ์ ศิรินิล

ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย

เนื่องจากยังไม่ชัดเจน ว่าคสช.จะคลายล็อกให้ทำอะไรได้บ้าง ในขอบเขต แค่ไหน เพียงใด แต่ดูจาก ข่าวการคลายล็อก 9 เรื่องนั้นอาจสรุปได้เป็นเรื่องหลักๆ 4 เรื่อง

1.เรื่องที่เกี่ยวกับสมาชิกพรรค ขยายเวลาการหา สมาชิกให้ครบ 500 คน 5,000 คน จากเวลาที่กำหนดไว้เดิม และให้หาสมาชิกเพิ่มได้โดยเพิ่มวิธีการหาทางไลน์ได้ ติดต่อสมาชิกได้ การลดค่าบำรุงพรรคของสมาชิก 2.การจัดประชุมใหญ่เพื่อแก้ไขข้อบังคับพรรค เลือกหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค จัดตั้งสาขาและตัวแทนพรรคประจำจังหวัด ตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัคร

3.เรื่องการทำไพรมารีโหวต โดยตั้งคณะกรรมการ 11 คน คัดเลือกผู้สมัครเสนอคณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา สำหรับการเลือกตั้งครั้งแรก และ 4.การขยายเวลาจัดให้มีทุนประเดิม 1 ล้านบาท

เมื่อพิจารณาภาพรวมแล้วเรื่องต่างๆ เกี่ยวข้องกับการเตรียมการเลือกตั้งของพรรคการเมือง ส่วนจะแก้ปัญหาใดตรงจุดหรือไม่ต้องรอดูความชัดเจนของคสช.อีกครั้ง

ทั้งหมดหมายความว่าคสช.ยังไม่ยกเลิกคำสั่งที่ 57/2557 และประกาศที่ 3/2558 ที่ห้ามพรรคการเมืองทำกิจกรรมและห้ามชุมนุมทางการเมืองเกินกว่า 5 คน คสช.ยังคงต้องการที่จะกระชับอำนาจอยู่ต่อไป

ถ้าคสช.ให้พรรคปฏิบัติตามพ.ร.ป.พรรคการเมืองที่มีผลใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ต.ค.60 ทุกพรรคก็คงทำตามกฎหมายกำหนดเสร็จไปแล้ว แต่เมื่อห้ามมิให้ทำแล้วยังยกเลิกสาขาพรรค สมาชิก ดังนั้นไม่ควรต้องรออะไรอีก ควรให้ทำได้ทันทีหลังมีคำสั่งมาตรา 44

การจัดประชุมใหญ่เพื่อดำเนินการเรื่องต่างๆยังต้องมีขั้นตอนอีกมาก ถ้าเป็นหลังกฎหมายลูกใช้บังคับน่าจะเป็นการปลดล็อกสิ้นเชิง ไม่ควรให้มีข้อจำกัดใดๆ ต่อไป และการคลายล็อกของคสช.ล่าช้าไปเสียด้วยซ้ำ

ดูจากคำสัมภาษณ์ของผู้เกี่ยวข้องสรุปได้ว่ายังจะมีล็อกต่างๆ อยู่ต่อไปเป็นขั้น ที่สุดปัญหาจะเกิดปัญหาว่าอะไรทำได้ อะไร ทำไม่ได้ เพื่อไม่ให้คลุมเครือและตีความกันไปเองต่างๆ นานา เสนอให้คสช.ปลดล็อกทั้งหมดโดยเบ็ดเสร็จน่าจะเป็นผลดีกว่า

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน