ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ เปิดตัวเลขล่าสุดปีนี้พุ่ง9.5หมื่น ตายแล้ว14

ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ – เมื่อวันที่ 31 ส.ค.2561 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อยร้อนสลับฝนตก อาจทำให้ประชาชนบางส่วนเจ็บป่วยด้วยโรคต่างๆ โดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ที่มีผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในช่วงฤดูฝนนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝนในเดือนมิถุนายนเป็นต้นมา มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยเดือนละกว่า 10,000 ราย

สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 27 สิงหาคม 2561 พบผู้ป่วยจำนวน 95,239 ราย เสียชีวิตแล้ว 14 ราย ผู้ป่วยและเสียชีวิตจากเชื้อไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A โดยร้อยละ 50 เป็นกลุ่มผู้สูงอายุ (อายุมากกว่า 65 ปี) และผู้เสียชีวิตส่วนมากมีโรคเรื้อรังร่วมด้วย ทั้งปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน

เมื่อมีอาการสงสัยว่าป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ คือ ไข้สูงเกิน 2 วัน ปวดเมื่อยร่างกาย ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการรักษาโดยเร็ว สามารถลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตได้

ไข้หวัดใหญ่

นพ.สุวรรณชัยกล่าวอีกว่า โรคไข้หวัดใหญ่ติดต่อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง (น้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะ) ของผู้ป่วย โดยรับผ่านการไอ จามรดกัน หรือหายใจเอาฝอยละอองเข้าไป อาจรับเชื้อทางการสัมผัสสิ่งของเครื่องใช้ที่ปนเปื้อนเชื้อ เช่น แก้วน้ำ ลูกบิดประตู โทรศัพท์ ผ้าเช็ดมือ เป็นต้น หลังรับเชื้อมักมีอาการทันทีหรือประมาณ 1-2 วัน จะมีอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก (โดยเฉพาะที่หลัง ต้นแขน ต้นขา) อ่อนเพลีย มีน้ำมูกใสๆ

“หากมีอาการคล้ายป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ ขอให้หยุดเรียนหรือหยุดงานทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายสู่ผู้อื่น งดออกกำลังกาย งดดื่มน้ำเย็น ควรรับประทานอาหารอ่อน น้ำเกลือแร่และพักผ่อนมากๆ มีไข้ให้เช็ดตัว หากไข้ไม่ลดให้รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล ห้ามใช้ยาแอสไพริน หากอาการไม่ดีขึ้นภายใน 2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที ผู้ป่วยส่วนใหญ่สามารถหายได้เองภายใน 5-7 วัน” นพ.สุวรรณชัยกล่าว

นพ.สุวรรณชัยกล่าวต่อว่า ประชาชนทุกคนสามารถป้องกันการป่วยและเสียชีวิตได้ โดยยึดหลัก “ปิด ล้าง เลี่ยง หยุด” เพื่อป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกสายพันธุ์ ได้แก่
1.ปิด คือปิดปาก ปิดจมูก เมื่อไอ จาม ต้องใช้ผ้าหรือกระดาษทิชชูปิดปากและจมูกทุกครั้ง หากเจ็บป่วยด้วยไข้หวัดใหญ่ ควรใส่หน้ากากอนามัย
2.ล้าง คือล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่เมื่อสัมผัสสิ่งของ เช่น กลอนประตู ลูกบิด ราวบันได ราวบนรถโดยสาร
3.เลี่ยง คือหลีกเลี่ยงการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้ป่วย หรือในสถานที่แออัด มีคนอยู่รวมกันจำนวนมาก
และ 4.หยุด คือเมื่อป่วยควรหยุดเรียน หยุดงาน หยุดกิจกรรม แม้ผู้ป่วยจะมีอาการไม่มากก็ควรหยุดพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านจนกว่าจะหายเป็นปกติ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่สำคัญ ได้แก่ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ที่เป็นโรคอ้วน เป็นต้น ขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ไข้หวัดใหญ่ : ป้องกันตัวเองอย่างไรอย่างไรช่วงไข้หวัดระบาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน