หมิ่นเกาะเต่าทำลายชาติ

ใบตองแห้ง

นายกฯ บอกสื่อไทยอย่ามโน ไม่ต้องกลัวติดคุก 7 ปี แบบนักข่าวพม่า เพราะเราใช้กฎหมายของตัวเอง สื่อไทย ไม่ต้องขึ้นศาล ก็เอาเข้าค่ายทหารได้ แบบประวิตร โรจนพฤกษ์ หรือแค่ทำเพจ “เรารักพลเอกประยุทธ์” ก็ติดคุกได้ตั้งนาน ทีวีวิพากษ์วิจารณ์ก็ถูกปิดนับครั้งไม่ถ้วน

ล่าสุด ก็ดำเนินคดีเพจ CSI LA พร้อมคนแชร์ 12 ราย โทษฐาน “กุข่าว” แหม่มอังกฤษถูกข่มขืนที่เกาะเต่า ทั้งที่ข่าวมาจากหนังสือพิมพ์อังกฤษ CSI LA เอามาวิเคราะห์ต่อ แต่พอ “บิ๊กโจ๊ก” ลงพื้นที่ ให้เหตุผลดีเฟนด์เป็นฉากๆ เช่นเป็นคืนข้างแรม น้ำขึ้น มีการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ฯลฯ เป็นไปไม่ได้ ข่าวนี้ไม่จริง ผู้นำท้องถิ่นก็ไปแจ้งจับเพจ CSI LA และสมุยไทม์ โทษฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ ทำลายชื่อเสียงเกาะเต่า ทำลายประเทศชาติ

เออ แล้วทำไมไม่แจ้งจับหนังสือพิมพ์เดลิเมล์ หรือสุทธิชัย หยุ่น ซึ่งสัมภาษณ์แม่แหม่มอังกฤษ ยืนยันว่าถูกข่มขืนจริง มีหลักฐานคราบอสุจิติดเสื้อผ้า ทีวีบางช่องก็ยืนยันว่า แม่ส่งอีเมล์มาร้องตำรวจท่องเที่ยว

พูดอย่างนี้ไม่ใช่ต้องเชื่อทันทีว่ามีการข่มขืนจริง แต่ “ความจริง” คือมีการกล่าวหาขึ้นแล้ว ข้อกล่าวหานี้ยังไม่เข้าสู่กระบวนการ ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำผู้เสียหาย ยังไม่ได้พิสูจน์หลักฐานที่เธออ้าง มีเพียงบิ๊กโจ๊กลงไปสอบถาม ชาวเกาะเต่า ว่าไม่มีใครรู้เห็น ตำรวจเกาะพะงันก็บอกแค่ลงบันทึกประจำวันของหาย เอาไปเคลมประกัน

เท่านั้น ก็สรุปว่าไม่เป็นความจริง เพจ CSI LA จึงถูกกล่าวหาว่าแพร่ความเท็จ บ่อนทำลายชื่อเสียงประเทศ คนแชร์ 10 รายถูกไล่จับราวกับผู้ร้ายข้ามชาติ ส่งตัวไปดำเนินคดีที่เกาะเต่า

ถามว่าประชาชนไม่มีเสรีภาพที่จะแสดงความเห็นต่าง จากบิ๊กโจ๊กหรือครับ อย่าว่าแต่คดีนี้ยังไม่สรุปสำนวน ต่อให้ตำรวจอัยการสั่งฟ้อง หรือศาลตัดสินแล้ว ประชาชนก็มีเสรีภาพ ที่จะเห็นต่าง ตราบใดที่ไม่หมิ่นศาล

นี่เข้าข่ายการใช้อำนาจเกินกว่าเหตุไหม โดยเฉพาะการ ไปไล่เอาผิดคนแชร์ ซึ่งทนายวิญญัติ ชาติมนตรี ชี้ว่าคนแชร์จะมีความผิดต้องมีเจตนา ต้องรู้ว่าเป็นความเท็จหรือบิดเบือน คดีนี้ตำรวจหาความจริงแล้วหรือยัง

ว่าตามเนื้อผ้า แหม่มอังกฤษถูกข่มขืนจริงไหม ก็ยาก จะพิสูจน์ได้ เพราะเรื่องผ่านไปนานแล้ว ต่อให้ทันทีที่เป็นข่าว ตำรวจไทยขึงขังจริงจัง ตั้งทีมสอบสวนขันแข็ง ก็ไม่แน่ว่า จะพิสูจน์ได้ เพียงพิสูจน์ให้นักท่องเที่ยวเห็นว่าเราทำเต็มที่แล้วเท่านั้น

แต่นี่ นับตั้งแต่มีข่าว กลับเกิดปฏิกิริยาทำนองว่า ตำรวจไทย เสียหน้า ยิ่งเป็นเกาะเต่า ซึ่งเคยเกิดกรณีข่มขืนฆ่านักท่องเที่ยวมาแล้ว โดยหลายคนรวมทั้งเพจสมุยไทม์และ CSI LA ไม่เชื่อ ว่าเป็นฝีมือ 2 คนงานพม่า ก็ดูเหมือนจะมีปฏิกิริยาตอบโต้ทันที ทั้งจากฝ่ายรัฐ สื่อไทย และผู้รักชาติในโลกโซเชี่ยลว่า “จ้องทำลาย” โดยเฉพาะพวกที่เอามาขยาย มาวิพากษ์วิจารณ์ ก็กลายเป็นพวก “ออนไลน์ขายข่าวล่มชาติ” เลยทีเดียว

ฟังไปฟังมา บางคนแทบจะยุให้ลากแหม่มกะปิมาขึ้นศาลไทย ฐานบ่อนทำลายประเทศอันเป็นที่รักของเรา

คงเป็นผลดีต่อการท่องเที่ยวมากเลยนะ มีใครไปอ้างว่า มาเที่ยวไทยแล้วถูกข่มขืน ถูกทำร้าย แต่พิสูจน์ไม่ได้ แล้วเราไปไล่เอาผิดฐานบ่อนทำลาย

ก็หวังว่าคดีนี้จะไม่บานปลายข้ามประเทศอีก ถ้าแม่แหม่มอังกฤษแจ้งความเอาเรื่องอย่างจริงจัง

เรื่องขำๆ คือกรณีนี้ “พี่ป้อม” พลอยโดนหางเลขไปด้วย เพราะพอดี เป็นเพจ CSI LA ที่แฉนาฬิกา 25 เรือน เพราะพอดี ที่เป็นบิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วยโฆษกรองนายกรัฐมนตรี รอง ผู้บัญชาการอาวุโสลำดับ 112 แต่อัตราต่อรองไม่มีใครยอมเดิมพัน ขึ้นเป็นผู้บัญชาการแหงๆ

แหม่ ไม่ต้องเป็น CSI LA หรอกครับ เป็นใครก็โดน ภายใต้ยุครัฐเข้มแข็ง รัฐประหารสร้างชาติใหม่ ให้ชาติไทยเข้มแข็ง ไม่อ่อนแอ ไม่เป็นรัฐล้มเหลว เหมือนสมัยที่ยังเป็นประชาธิปไตย มีเลือกตั้ง มีนักการเมือง ต่อไปใครจะกล่าวหาประเทศไทยง่ายๆ ไม่ได้นะ เพราะเราอุตส่าห์รณรงค์ “อย่าให้ใครว่าไทย” ปลุกความหวังว่าเป็นศูนย์กลางให้โลกชื่นชม เหมือนเมื่อครั้งปฏิบัติการถ้ำหลวง แต่พอเรือล่มที่ภูเก็ต นั่นไม่ใช่ไทย นั่นมันนอมินีจีน หรือพอเอเชียนเกมส์ได้เหรียญทอง น้อยกว่าทุกครั้งก็ยัวะ “เชียร์อะไรก็แพ้”

รัฐเข้มแข็ง รัฐอันศักดิ์สิทธิ์ ใครจะกล่าวหาซี้ซั้วไม่ได้นะ ถ้ามีหลักฐานชี้ชัด เจ้าหน้าที่โดนหนัก แต่ถ้าเอาผิดไม่ได้ ไอ้พวกที่กล่าวหา พวกจ้องทำลาย ก็ต้องโดนเอาคืนอย่างสาหัส

(หน้า 6)

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน