หากดูอาการต้วมเตียม ต้วมเตี้ยม ไม่ว่าจะจากพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าจะจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย เมื่อเปรียบเทียบกับ พรรคอนาคตใหม่
ก็จะทำให้มีความเข้าใจลึกซึ้งยิ่งขึ้นว่าเหตุใดจึงจะมีการผ่อน ปรนในเรื่อง”ไพรมารี โหวต”จากคสช.
ขณะที่พรรคอนาคตใหม่ประชุมครั้งที่ 1 เมื่อเดือนพฤษภาคม
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังมิได้เริ่มต้นนับ 1
จากเดือนพฤษภาคม มิถุนายน กรกฎาคม สิงหาคม กันยายน อนาคตใหม่ยังอยู่ในสถานะ”ว่าที่”ยังได้รับการรับรองให้เป็นพรรคการเมืองจากกกต.
รวมเบ็ดเสร็จแล้วเป็นเวลา 5 เดือนแล้ว
หากมองอย่างเปรียบเทียบพรรครวมพลังประชาชาติไทยอาจนับ 1 ในเดือนกรกฎาคม เมื่อมีการเลือก ม.ร.ว.จตุมงคล โสณกุล เป็น หัวหน้าพรรค
เหมือนพรรคอนาคตใหม่เลือก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็น หัวหน้าพรรคเมื่อเดือนพฤษภาคม
นั่นเท่าพรรครวมพลังประชาชาติไทยนับ 1 เดือนกรกฎาคม
ตรงกันข้าม พรรครวมพลังประชารัฐตัวมเตี้ยมอยู่การมาด หมายจะนับ 1 ในวันที่ 15 กันยายน และทำท่าว่าอาจจะต้องเลื่อนไปยังเดือนตุลาคม
หากเริ่มต้นนับ 1 จากเดือนตุลาคมไปอีก 4 เดือน พฤศจิกายน ธันวาคม มกราคม กุมภาพันธ์
นั่นหมายถึงเลยการเลือกตั้งในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ไปแล้ว
แต่ละเดือนของ พรรครวมพลังประชาชาติ พรรคพลังประชารัฐ จึงล่อแหลมเป็นอย่างยิ่งเมื่อมองผ่านความพร้อม
เด่นชัดว่ามิอาจทำ”ไพรมารี โหวต”ได้อย่างแน่นอน
ไม่เพียงแต่ระบบ”ไพรมารี โหวต”จะต้องอนุวัติไปตามความพร้อม ของพรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคพลังประชารัฐเท่านั้น หากแม้กระทั่ง”วันเลือกตั้ง”ก็อาจต้อง”เคลื่อน”
ที่เคยเชื่อกันว่าจะมี”การเลือกตั้ง”ภายในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ก็เริ่มคลอนแคลน กระทั่งทอดตามองไปยังภายในวันที่ 5 พฤษภา คม 2562 มากยิ่งขึ้น
นั่นเพราะพรรคพลังประชารัฐ พรรครวมพลังประชาชาติไทย อาจจะยังไม่พร้อม