ท่าทีของ “กลุ่มสามมิตร” ต่อบทบาทของ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ กรณียึดบัตรประชาชนที่นครราชสีมา

ชวนให้หวาดเสียวอย่างยิ่ง

ขณะที่ทางด้านพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล ไม่ว่า นายสรอรรถ กลิ่นประทุม ต่างออกมาปกป้องคนของตนในเสิงสาง ครบุรี หรือแม้กระทั่งในบัวใหญ่อย่างเต็มที่

แต่กล่าวสำหรับ”กลุ่มสามมิตร” ปล่อยให้ นายสุภรณ์ อัตถา วงศ์ เล่นบทข้ามาคนเดียว

คล้ายกับจะเป็น “โดดเดี่ยวในบ้านร้าง”

ไม่ว่า นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ไม่ว่า นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เงียบอย่างชนิด “มิดจีลี่”

ยิ่ง นายภิรมย์ พลวิเศษ ยิ่งเงียบกว่าจรเข้กบดาน

หากประเมินว่าที่ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ จัดหนักเพราะว่าเหตุเกิดในพื้นที่เสิงสาง ครบุรี อันเป็นฐานเสียงในทางการเมือง

แต่อย่าลืมว่ามีที่”บัวใหญ่”ด้วย

ยิ่งหากสอบค้นกระบวนการเปิดโปงในเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นก็จะสัมผัสได้ว่ามาจากทีมงานของพรรคเพื่อไทยในพื้นที่จังหวัดนคร ราชสีมา

นำทีมโดย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง นายโกศล ปัทมะ และสร้างสีสันโดย นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

ฐาน นายโกศล ปัทมะ อยู่”บัวใหญ่”

แต่พรรคเพื่อไทยก็มากด้วยความสุขุมเปี่ยมคัมภีรภาพ นั่นก็คือ เคลื่อนไหวโดยมิได้ระบุว่าเป็นพรรคการเมืองใด ขณะเดียวกัน เมื่อ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ เล่นเต็มพิกัด

ทีมพรรคเพื่อไทยก็”ขึ้นบนภู”คอยดูเสือ”กลุ่มสามมิตร”ปะทะกับเสือ “ภูมิใจไทย”ด้วยความเยือกเย็น

ทุกรายละเอียดเหมือนกับ”ล่อเสือออกจากถ้ำ”

 

ความเงียบเชียบของ นายภิรมย์ พลวิเศษ พอเข้าใจได้เพราะพาดพิงมาถึงพื้นที่”บัวใหญ่”จึงต้องระมัดระวังอย่างเป็นพิเศษ

แต่ความเงียบของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน น่าคิด

ยิ่งความเงียบอันมาจาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ยิ่งต้องนำไปขบคิด และคนที่ควรจะขบคิดอย่างรอบคอบย่อมเป็น นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์

ทุกอย่างอาจเป็นตามคำทำนายจาก”ภูมิใจไทย”ก็เป็นได้

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน