สำทับจาก “บิ๊กคสช.” ที่อาจส่งเทียบเรียกตัว นายพิชัย นริพทะพันธุ์ เข้าปรับทัศนคติ
ประสานกับการบุกบ้าน นายนคร มาฉิม
ไม่ว่าจะเป็นบ้านในตัวเมืองพิษณุโลก และบ้านในพื้นที่นครไทย อันเป็นเขตเลือกตั้ง
เท่ากับเป็น”สัญญาณ” จาก “คสช.”
เป็นสัญญาณอันบ่งบอกแนวโน้มและความเป็นไปได้ที่บรรยากาศการเลือกตั้งไม่ว่าในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ไม่ว่าในวันที่ 5 พฤษภาคม 2562
จะละม้ายเหมือนกับบรรยากาศ”ประชามติ”เมื่อเดือนสิงหาคม 2559
นี่คือ “กลิ่น” นี่คือ “สัญญาณ”
คงจำกันได้ว่า บรรยากาศก่อน”ประชามติ”เมื่อเดือนสิงหาคม 2559 นั้นดำเนินมาอย่างไร
นปช.ย่อมรู้ดีอย่างยิ่ง
เพราะเพียงขยับจะเปิด “ศูนย์ต่อต้านการโกง” ทั้งทหาร ทั้งตำรวจ ทั้งฝ่ายปกครอง ก็สนธิกำลังบุกศูนย์การค้าอิมพีเรียลเวิลด์ ลาดพร้าว
จากเดือนสิงหาคม 2559 กระทั่ง ณ วันนี้ คดีความยังคาราคาซังอยู่กองปราบปราม
เพียงได้ยินเสียงคำรามถึง นายพิชัย นริพทะพันธุ์
เพียงได้เห็นการยุกพยุหโยธาทั้งทหาร ตำรวจและฝ่ายปกครองในนามของ”กอ.รมน.”ไปยังเคหสถานของ นายนคร มาฉิม ก็พอจะมองเห็นแวว
อย่าถามถึงการตั้งเวที”ปราศรัย” แค่เปิดให้มีการสมัครรับเลือกตั้งก็อาจจะเป็นบุญคุณล้นเหลือแล้ว
แม้ว่าจะมี”รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560″ก็ตาม
ถามว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยอมหรือไม่ ถามว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะยอมหรือไม่
อย่าถามถึงพรรคพลังประชารัฐ
ยิ่งพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือพรรคประชาชนปฏิรูป ยิ่งไม่ต้องถาม เพราะประสานเสียงหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อยู่แล้ว
จาก”ประชามติ”มายัง”เลือกตั้ง”ตามโรดแม็ป”คสช.”