พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวในการปาฐกถาพิเศษตอนหนึ่ง ระบุ ทุกวันนี้ประชาชนพากันไม่อยากออกกำลังกาย จึงทำให้เจ็บป่วยกันมาก ซึ่งคนเหล่านั้นพากันคิดว่าป่วยก็ไม่เป็นไร ถึงไม่สบายก็ไปรักษาฟรีได้

ทัศนะดังกล่าว นำมาซึ่งการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วคนทั่วไป ที่ล้มป่วย เพียงเพราะต้องการรักษาตัวในโรงพยาบาลโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายนั้น น่าจะไม่ใช่ข้อเท็จจริง

ในอดีต การเข้าถึงบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขลำบากเย็นอย่างยิ่ง ส่วนหนึ่งเพราะต้องใช้จ่ายในอัตราที่สูง ถึงขนาดบางคนยอมให้ตายเสียดีกว่าขายนาไปเข้าโรงพยาบาล

สะท้อนปัญหาการบริการรักษาพยาบาลของประเทศ

ต่อมา เมื่อรัฐบาลประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน พรรคแกนนำและผู้นำรัฐบาลในยุคนั้น ได้นำแนวคิดและระบบ หลักประกันสุขภาพถ้วนหน้ามาเป็นนโยบาย

ถือเป็นการปฏิรูปการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพครั้งใหญ่ ที่ประชาชนมีโอกาสได้รับการดูแลรักษา เมื่อยามเจ็บป่วยในอัตราค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม ด้วยบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค

กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นโดยลำดับ ทำให้ประชาชนก็มีความพึงพอใจอย่างมาก แต่ก็มีบุคลากรในวงการสาธารณสุขเริ่มมีท่าทีต่อต้าน

มีการคิดค้นระบบแบ่งจ่ายขึ้นมา

ที่ผ่านมา เป็นที่ทราบกันดีการรักษาพยาบาลฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายนั้น มีจำกัดอยู่แต่บรรดาข้าราชการ ทหาร ตำรวจ บางหน่วยถึงขนาดมีโรงพยาบาล เพื่อให้การรักษาเป็นการเฉพาะ

ด้วยอานิสงส์ของความเป็นข้าราชการ ยังครอบคลุมไปถึงครอบครัว และบุพการีได้รับการรักษาตัวฟรีไปด้วย ขณะที่ประชาชนทั่วไปไม่มีโอกาสดังกล่าว จนกระทั่งมีระบบหลักประกันด้านสุขภาพขึ้น

ทัศนะและมุมมองว่าถ้ามีระบบบริการด้านสุขภาพที่ดีและทั่วถึง ทำให้ประชาชนไม่ออกกำลังกาย จนกลายเป็นผู้ป่วย เพราะได้สิทธิ ในการรับการรักษาฟรี จึงเป็นวิธีคิดที่ไม่รอบด้าน

เพราะที่ผ่านมาก็พิสูจน์ไม่ได้ว่ามีคนอยากเจ็บป่วย เพราะอยากเข้าโรงพยาบาลรักษาฟรี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน