ธนาคารแห่งประเทศไทย ส่งสัญญาณว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในเร็ววันนี้ แต่มีแนวทางปลอบขวัญไม่ให้ตื่นตระหนกว่า การปรับดังกล่าวจะไม่ใช่การปรับไปเรื่อยๆ แบบธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือเฟด
การปรับดอกเบี้ยของไทยจะใช้ประเมินในแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งยังไม่มีเปลี่ยนแนวปรับนโยบายจากผ่อนคลายไปเป็นนโยบายแบบตึงตัว เนื่องจากเห็นว่า แบบผ่อนคลายยังจำเป็นสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย
คำอธิบายดังกล่าวยังไม่ได้แสดงผล กระทบต่อประชาชนคนเดินดินทั่วไปมากนัก แม้ว่า ธปท.แสดงความจำนงว่า พร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่ายอย่างรอบด้านเพื่อใช้ในการตัดสินใจ
วัตถุประสงค์หลักในการทำงานของธปท.ที่ประกาศออกมาคือต้องการให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน จึงต้องชั่งน้ำหนักตัวแปรและความเสี่ยงต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
ข้อมูลขณะนี้พบว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ แต่ขณะเดียวกัน ทำให้คนประเมินความเสี่ยงทางการเงินต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และมีพฤติกรรมแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น โดยไม่เข้าใจความเสี่ยงอย่างแท้จริง
สำหรับประเทศไทย ประเมินอัตราเงินเฟ้อในปี 2561 และปี 2562 อยู่ในกรอบเป้าหมายที่ร้อยละ 1-4 ซึ่งธปท.ระบุว่ายังถือเป็นกรอบที่เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
แนวทางการทำงานที่ดึงทุกฝ่ายร่วมแสดงความเห็นต่อนโยบายนั้นถือเป็นกระบวนการสำคัญอย่างหนึ่งที่ส่งเสริมพัฒนาการทางประชาธิปไตย โดยเฉพาะที่ระบุว่าทุกครั้งที่ผ่านมาจะมีกระบวนการเก็บข้อมูลทั้งจากประชาชน ผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ ตลอดจน นักวิเคราะห์ และนักวิชาการต่างๆ
เนื่องจากธปท.เป็นหน่วยงานที่ดูแลในระดับมหภาค แต่การตัดสินใจต่างๆ จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ โดยรวม
หากต้องดึงประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมมากขึ้น น่าจะให้ข้อมูลเรื่องปากท้องหรือชีวิตความเป็นอยู่ของคนทั่วไปมากขึ้น เพื่อจะได้รับความเห็นได้กว้างขวางขึ้น
และทำให้ภาพเศรษฐกิจชัดเจนขึ้น ว่าตัวเลขที่สวยต้องมาพร้อมกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชน
