2580
พุทธศักราช 2580 เป็นปีสุดท้ายที่แผนยุทธศาสตร์ชาติจะมีผลบังคับใช้
เวลา 20 ปียาวนานเพียงใดนึกภาพได้ไม่ยากนัก หากเปรียบเทียบว่าเด็กที่เกิดในปี 2561 จะมีอายุ 20 ในช่วงเวลานั้น
หากเด็กพ.ศ.นี้มีโอกาสเล่าเรียนไปตามขั้นตอนปกติ ส่วนใหญ่น่าจะอยู่ในรั้วมหาวิทยาลัย เริ่มฝึกฝนการทำงานเพื่อเตรียมก้าวสู่ตลาดแรงงาน
ส่วนสภาพตลาดแรงงานในขณะนั้นจะเป็นอย่างไรหากประเทศเดินทางไปตามแผนยุทธศาสตร์ คาดเดาได้ยากว่าจะเท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลกหรือไม่
เมื่อใช้ฐานความคิดของกลุ่มคนผู้หวังดีในปี 2561
หลังการประกาศในราชกิจจานุเบกษา รัฐบาลแถลงย้ำให้ทุกส่วนต้องนำแผนยุทธศาสตร์ชาติไปปฏิบัติ ให้เป็นแผนแม่บทของกระทรวงต่างๆ เพื่อให้มีทิศทางและใช้งบประมาณที่ชัดเจน
ขณะเดียวกันยังขอให้สื่อมวลชนและประชาชนทุกคนไปศึกษาทำความเข้าใจยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูป ด้วยการกำชับว่า 5 ปีแรกนับจากนี้สำคัญที่สุด
โดยยืนยันว่ารัฐบาลหน้าที่จะมาจากการเลือกตั้ง จะต้องทำตามกรอบนี้ด้วย
ขณะที่การออกตัวว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้สืบทอดอำนาจนั้น แท้จริงแล้วไม่สำคัญเท่ากับที่มาอันไม่ชอบธรรม
แผนยุทธศาสตร์ชาติที่มุ่งมั่นหวังดีว่าจะก้าวสู่วิสัยทัศน์มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ต้องพ้นจากกับดักรายได้ปานกลาง ต้องเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว
ถูกกำหนดว่า ทุกอย่างจะต้องตอบสนองความยั่งยืนของประเทศ คนไทยทุกคนจะได้รับการพัฒนาทุกด้านทุกช่วงวัยให้เป็นคนดี เก่ง และมีคุณภาพ ส่วนภาคเอกชนใช้ยุทธศาสตร์ชาติเป็นแนวทางในการประกอบธุรกิจได้
ทั้งหมดต้องได้รับการตรวจสอบ และประเมินผลว่ามีการปฏิบัติตามแผนหรือไม่
ทั้งที่การกำหนดแผนเกิดขึ้นในยุคที่รัฐบาลไม่ได้มาจากประชาชน ตั้งข้อกำหนดอนาคตของประเทศในช่วงเวลาของการยึดอำนาจ
สำหรับประชาชนแล้วจะเป็นภาระที่ทอดยาวไปถึง 20 ปี