โลกโซเชี่ยล
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเพิ่มพื้นที่ออนไลน์ ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตา แกรมส่วนตัว อ้างว่าเพื่อใช้ในการสื่อสารกับประชาชน รวมถึงรับฟังข้อเสนอแนะเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาล
ก่อนหน้านี้ หัวหน้ารัฐบาลใช้ช่องทางอื่นๆ ในการสื่อสารกับประชาชน มีทั้งโทรทัศน์ วิทยุ รวมถึงเพจต่างๆ อีกจำนวนมาก โดยมีผู้ดูแลแทน ทำให้น่าสงสัยว่าประสบความสำเร็จหรือไม่
แม้ว่า นายกรัฐมนตรี จะเคยระบุว่าวิธีที่ทำให้มีความสุขคือไม่เล่นเฟซบุ๊ก ไม่ดูโซเชี่ยล เพราะจะทำให้หัวโล่ง ถ้าเปิดอ่านก็หมดแรงข้าวต้ม เพราะมีแต่คนด่าทั้งวัน
การเปิดหน้าสู่โลกเสมือนจริง จึงเป็นที่น่าจับตา
วันแรกของการเปิดตัว ถือว่าประสบความสำเร็จพอสมควร เพราะมีผู้กดไลก์และติดตามเกินกว่า 1 แสนบัญชี อีกทั้งมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก
เปรียบเหมือนกระจกบานใหญ่รอบทิศทาง มีทั้งดอกไม้และก้อนอิฐพุ่งเป้าเข้าใส่ ถ้าหากดำเนินการไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ปิดกั้นหรือลบข้อความที่คิดต่างออก ก็จะรับรู้ได้ว่าชาวบ้านคิดและรู้สึกอย่างไร
เมื่อเปรียบเทียบกับโพลความคิดเห็นที่ผ่านมา ที่บางหน่วยสำรวจและพบว่ามีผู้สนับสนุน เชิดชู ยกย่อง มีคะแนนนิยมนำมาเป็นอันดับต้นๆ และสมควรจะเป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง
ความที่ปรากฏในเฟซบุ๊กที่สวนทางกัน เป็นสิ่งที่จะต้องยอมรับ
อย่างไรก็ตาม เมื่อพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งสวมหัวโขนอยู่หลายหัว ใช้สื่อโซเชี่ยลมีเดียสื่อสารกับประชาชนได้อย่างเสรี นักการเมือง พรรคการเมือง ที่จะลงแข่งขันเลือกตั้งครั้งหน้าก็สมควรมีสิทธิเช่นเดียวกัน
คำสั่งคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติที่ 13/2561 ข้อ 6 ที่ปิดกั้น สั่งห้ามไม่ให้หาเสียง หรือแถลงนโยบายทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ จึงต้องได้รับการพิจารณา
แม้ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมองว่ากรณีของพล.อ.ประยุทธ์ไม่เข้าข่ายการหาเสียง แต่ก็เป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งไม่ส่งผลดีต่อองค์กรอิสระที่มีหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้
ระวังเรื่องสองมาตรฐานอาจสร้างปัญหาอื่นๆ ตามมาได้
