คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ผลสรุปยอดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายที่ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนเผยแพร่นั้นแน่ชัดตั้งแต่ยังไม่ครบ 7 วันว่าตัวเลขในปี 2560 นั้นสูงกว่าปี 2559

ทั้งในส่วนของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ และจำนวนอุบัติเหตุสะสม

อีกทั้งยังเกิดอุบัติเหตุรถตู้โดยสารที่เดินทางจากจ.จันทบุรี มุ่งหน้ายังกรุงเทพฯ พุ่งข้ามเลนไปชนกับรถปิกอัพที่มีผู้โดยสารเต็มคัน บนถนนสาย 344 บ้านบึง-แกลง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ส่งผลให้เกิดไฟลุก มีผู้เสียชีวิตถึง 25 ราย เมื่อวันที่ 2 ม.ค.

เป็นโศกนาฏกรรมสะเทือนใจตั้งแต่ต้นปี

หากพิจารณาผลสอบสวนเบื้องต้นของอุบัติเหตุดังกล่าว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและคนในสังคมอาจผิดหวังที่การรณรงค์ให้คนเคารพกฎหมายจราจร “ง่วงไม่ขับ ดื่มไม่ขับ” นั้นไม่บังเกิดผลอย่างที่ตั้งใจไว้

เพราะกรณีของรถตู้นั้น สอบสวนพบว่าโชเฟอร์ขับรถโดยสารนี้ติดต่อมา 2 วันไม่ได้พัก

ในขณะที่สาเหตุสูงสุดของยอดอุบัติเหตุรวมในปีใหม่นี้มาจากเหตุเมาสุราแล้วขับ รองลงมาคือขับรถด้วยความประมาท

เจ้าหน้าที่บางหน่วยงานวิเคราะห์ว่า อุบัติเหตุ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากคนเดินทาง ท่องเที่ยวหรือกลับไปเยี่ยมบ้านมากขึ้น

แต่ผลวิเคราะห์นี้จะไม่ได้ช่วยหาทางออกได้มากนัก

ในส่วนของกรมการขนส่งทางบก เจ้าหน้าที่พิจารณาว่าอาจสั่งยกเลิกใช้รถตู้โดยสารทั่วประเทศ เนื่องจากโครงสร้างไม่ปลอดภัย เป็นอุปสรรคต่อการช่วยเหลือ จึงเสนอเปลี่ยนเป็นไมโครบัสแทนภายใน 3 ปีเริ่มจากปี 2561

อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหานี้ยังอยู่ที่ปลายเหตุ ขณะที่การขนส่งมวลชนยังคงติดอยู่บนท้องถนน และผู้คนมีทางเลือกน้อยมาก

เมื่อช่วงเทศกาลหยุดยาวมาถึง พาหนะทุกชนิดจะลงไปรวมกันบนถนนอีก และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุอีก

การพัฒนาระบบขนส่งมวลชนทางรางที่ปลอดภัย ซึ่งนานาประเทศใช้ น่าจะเป็นตัวอย่างของทางเลือกที่รัฐต้องคิดอย่างจริงจัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน