ประเทศไทยมี ยุบพรรคเพื่อไทย?

ประเทศไทยมี ยุบพรรคเพื่อไทย? – การเมืองเข้มข้นขึ้นเป็นลำดับ ตามบรรยากาศการเลือกตั้งที่กระชั้นเข้ามา อย่างที่หลายฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าการเลือกตั้งจะมีขึ้นวันที่ 24 ก.พ.2562

โดยไม่มีเหตุผลให้ต้องเลื่อนออกไปอีก

ถึงแม้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะไป พูดกับนายกฯ เนเธอร์แลนด์และนอร์เวย์ ว่ารัฐบาลไทยจะจัดเลือกตั้งอย่างช้า ไม่เกินเดือนพ.ค.2562 ก็ตาม

ท่ามกลางแรงบีบคั้นกดดันให้การเมืองแบ่งเป็น 2 ขั้วโดยอัตโนมัติ ก่อกระแสห้ำหั่นระหว่างพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยกับไม่ใช่ประชาธิปไตย

ทุกพรรคเริ่มเคลื่อนไหวปรับตัวไปตามกฎกติกาที่เขียนใหม่โดยกลุ่มเครือข่ายผู้มีอำนาจ ที่ต้องการสืบทอดอำนาจนั้นต่อไปหลังการเลือกตั้ง

ด้วยความพยายามทำทุกทางให้พรรคฝ่ายตนได้เปรียบ ขณะเดียวกันก็ได้สร้างกับดักหรืออุปสรรคต่างๆ นานาให้กับพรรคฝ่ายตรงข้าม

โดยมีพรรคเพื่อไทยและทักษิณ ชินวัตร เป็นเป้าหมายใหญ่ ส่วนพรรคการเมืองหรือนักการเมืองคนอื่นๆ หากโดนหางเลขไปด้วยก็ถือเป็นผลพลอยได้

ประเทศไทยมี ยุบพรรคเพื่อไทย?

ประยุทธ์ จันทร์โอชา, ประวิตร วงษ์สุวรรณ, สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์, ทักษิณ ชินวัตร

กรณีนายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์สื่อเอ็นเอชเค ประเทศญี่ปุ่น วิเคราะห์คาดการณ์ว่า

“การเลือกตั้งใหญ่ในไทย ที่คาดว่าจะจัดขึ้นภายในเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม 2562 ตามที่รัฐบาลและ คสช.ประกาศไว้ พรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยรวมกัน จะได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรมากกว่า 300 ที่นั่ง จากทั้งหมด 500 ที่นั่ง นี่คือเวลาที่ประชาชน จะหย่อนบัตรเลือกตั้งเพื่อจัดการเผด็จการออกจากประเทศไทย

หากฝ่ายประชาธิปไตยได้ที่นั่งในสภามากกว่า 300 ที่นั่ง จาก 500 ที่นั่ง รัฐบาลจะกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ไม่สามารถผ่านงบประมาณ และยังต้องเจอกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ขณะที่ วุฒิสภาไม่มีส่วนในการลงคะแนน

รัฐบาลก็จะล่มในไม่กี่สัปดาห์”

สิ่งที่ตามมาจากคำให้สัมภาษณ์ของทักษิณ คือการสร้างความหวาดผวาให้ฝ่ายผู้มีอำนาจ กลัวว่าจะเป็นจริง ถึงขนาดผู้ใหญ่ในรัฐบาล คสช.ต้องส่งสัญญาณไปยังคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกกต. ให้ตรวจสอบการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว

เข้าข่ายครอบงำพรรค เป็นภัยต่อความมั่นคงหรือไม่

ไม่ทันสิ้นเสียง กกต.ก็กระโดดรับลูกทันที พ.ต.อ. จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ ระหว่างรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐานทั้งภาพ ถ่าย คลิปและข่าว ความเห็นของบุคคลต่างๆ เพื่อนำมาประกอบการพิจารณา หากเข้าข่ายความผิด

จะส่งผลให้ถูก “ยุบพรรค”

ยังไม่รวมประเด็นตกค้าง กรณีวิดีโอคอลกลางงานเลี้ยงฉลองวันเกิดน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในร้านอาหารกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อเดือนมิ.ย. ที่ผ่านมา

รวมถึงกรรมการบริหารพรรค 9 คน ต้องเจอข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคสช. จัดกิจกรรมทางการเมือง ชุมนุมเกิน 5 คน และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 จากการเปิดโต๊ะแถลงผลงาน 4 ปีครบรอบรัฐประหาร

ตามที่ฝ่ายผู้มีอำนาจสามารถหยิบยกขึ้นมาอ้าง เป็นประเด็นนำไปสู่การ “ยุบพรรค” ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคได้ทั้งสิ้น

ล่าสุดทนายความของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในคดีจำนำข้าว ยังออกมาแฉพฤติกรรมคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บางคน

พยายามรื้อฟื้นคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจี ขึ้นใหม่ในช่วงเวลาได้-เสียทางการเมือง

ด้วยการให้จำเลยในเรือนจำให้การซัดทอดถึงนายทักษิณ ชินวัตร และเครือญาติ จูงใจแลกกับสิทธิประโยชน์ที่ไม่ต้องรับโทษอยู่ในเรือนจำ แต่ให้อยู่ในโรงพยาบาลแทน

ตรงนี้เองคือต้นเหตุปรากฏการณ์การแตกตัวพรรคเพื่อไทย ออกเป็นพรรคเพื่อธรรม และพรรคเพื่อชาติ รวมถึงพรรคไทยรักษาชาติ ที่เจาะจงใช้ชื่อย่อ “ทษช.”

จุดประสงค์นอกจากแก้ปัญหาในกรณีพรรคเพื่อไทยถูกยุบ ยังใช้เป็นพรรคเครือข่ายไล่ช้อนคะแนนส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ตามกลยุทธ์แยกกันเดิน รวมกันตี

ถึงแม้ยุทธวิธีจัดตั้งพรรคเครือข่าย หรือพรรคสำรอง จะถูกวิจารณ์เป็นเทคนิคแก้เกมระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสม

แต่ผลเสียคือทำให้ระบบพรรคการเมืองบิดเบือน สร้างความสับสนให้ประชาชน ทำให้พรรคหลักไม่ได้รับการพัฒนาต่อยอดให้เป็นสถาบันการเมืองที่เข้มแข็ง

ไม่ว่าจะอย่างไรด้วยสถานการณ์ที่เป็นอยู่ พรรค เพื่อไทยไม่มีทางออกอื่นมากนัก

เพราะเอาเข้าจริงหากมองย้อนไปถึงต้นตอของปัญหา จะพบว่าทั้งหมดสืบเนื่องจากการออกแบบรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว มุ่งกำจัดพรรคเพื่อไทยอย่าง ไม่สมเหตุสมผล

เป็นประเด็นต้องจับตาต่อไป หลังประชุมใหญ่พรรคเพื่อไทย คัดเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่วันอาทิตย์ที่ 28 ต.ค.

ซึ่งมีรายงานข่าวสรุปลงตัวว่า จะให้พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค ขึ้นดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเต็มตัว เช่นเดียวกับเลขาธิการพรรค ของนายภูมิธรรม เวชยชัย และกรรมการบริหารพรรค ที่ยังใช้ชุดเดิม

ส่วนคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรค จะดำรงตำแหน่งประธานยุทธศาสตร์พรรค ทำหน้าที่เป็นแม่ทัพถือธงนำสู้ศึกเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น

พรรคเพื่อไทยจะหาทางเอาตัวรอดจากกับดัก “ยุบพรรค” นี้อย่างไร

ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันที่รัฐบาลและ คสช.พยายามทำทุกอย่าง เพื่อสร้างหลักประกันในชัยชนะหลังเลือกตั้ง

นอกจากขู่ยุบพรรคใหญ่ที่เป็นปฏิปักษ์

รัฐบาลและ คสช.ยังปกป้อง 4 รัฐมนตรี แกนนำพรรคพลังประชารัฐ ว่าไม่จำเป็นต้องลาออกจากตำแหน่งในรัฐบาล

พร้อมเปิดไฟเขียวลุยเดินหน้าหาเสียง ภายใต้ข้ออ้างเป็นการลงพื้นที่พบปะประชาชน รับฟังความเห็นนำมาประกอบการจัดทำนโยบายพรรค

รัฐบาลและ คสช.พร้อมแสดงอาการเพิกเฉย ไม่ยุ่งเกี่ยวกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ได้นำทีมออกเดินสายทั่วประเทศ ตั้งแต่กรุงเทพฯ ไปภาคตะวันออก ลงใต้ยัน อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อชักชวนคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย

ในขณะที่พรรคอนาคตใหม่ถูกเจ้าหน้าที่ รัฐหลายหน่วยงานทั้งสันติบาลและกอ.รมน. ตามประกบติดทุกฝีก้าว ระหว่างการลง พื้นที่จังหวัดภาคอีสาน บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ เพื่อหาคนมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค เหมือนกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ

แต่กลับได้รับการปฏิบัติคนละมาตรฐาน ชนิดหน้ามือกับหลังมือ

นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ระบุถึงการกระทำ ดังกล่าวไม่เพียงแต่เป็นการละเมิดสิทธิ ขั้นพื้นฐานของบุคคล ยังเป็นการข่มขู่คุกคามและสร้างมาตรการกดดันประชาชน ไม่ให้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองตามวิถีทางประชาธิปไตย

พร้อมเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจสั่งยุติการกระทำดังกล่าว เพื่อเปิดพื้นที่ทางการเมืองสร้างบรรยากาศที่ดีในการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งต้นปีหน้า

และที่กำลังเป็นประเด็นครึกโครม

กรณีเพลงแร็พ “ประเทศกูมี” เนื้อหาวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีสังคมการเมือง ซึ่งมีการเผยแพร่กว้างขวางในสื่อสังคมออนไลน์ จนเป็นที่ถูกใจกลุ่มคนรุ่นใหม่

แต่ไม่ถูกใจรัฐบาลและคสช.

ส่งสัญญาณเจ้าหน้าที่รัฐเตรียมเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ สร้างความเสียหายต่อความมั่นคงประเทศ กระทบกระเทือนเศรษฐกิจ ทำให้นักลงทุนขาดความเชื่อมั่น

พร้อมขยายผลสอบสวนว่า เข้าข่ายขัดคำสั่ง คสช.ด้วยหรือไม่

จากที่ได้คะแนนจากการสั่งเลื่อนสอบ GAT/PAT เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ ได้ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง แต่พอมาถึงเพลงแร็พ “ประเทศกูมี” รัฐบาล คสช.กลับเทคะแนนทิ้ง ไปดื้อๆ

แบบนี้ไม่ว่าจะเปลี่ยนโฆษกรัฐบาลอีกกี่คน

ก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นอยู่นั่นเอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน