ประเทศเราไม่มี
ปรากฏการณ์ “ประเทศกูมี” เพลงแร็พและมิวสิควิดีโอ ที่ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางในโลกออนไลน์ และส่งผลสะเทือนออกมาสู่สังคมภายนอก โดยเฉพาะสังคมการเมือง น่าจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญก่อนการเลือกตั้งมาถึง
เนื้อหาของเพลงไม่สำคัญเท่าประเด็นที่ว่าประเทศนี้พร้อมจะรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างกันหรือยัง
พร้อมจะเปิดกว้างให้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกเป็นไปตามวิถีประชาธิปไตยตามปกติก่อนเหตุการณ์รัฐประหารหรือไม่
ในเมื่อปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เป็นข่าวที่รับทราบหรือวิพากษ์วิจารณ์เฉพาะในประเทศเท่านั้น
การตัดสินใจหรือดำเนินการใดๆ ของเจ้าหน้าที่รัฐต่อเยาวชนจะเป็นสิ่งที่นานาชาติจับตามองและพร้อมจะตัดสินประเทศไทยมากกว่า
หลังจากคลิปมิวสิควิดีโอเพลงประเทศกูมีได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและมียอดเข้าชมภายในวันแรกที่ปรากฏเป็นข่าวทะลุ 3 ล้านครั้ง
ความสนใจพิเศษนี้มีแรงกระตุ้นมาจากการที่เจ้าหน้าที่รัฐประกาศตรวจสอบเนื้อเพลงเข้าข่ายขัดคำสั่งคสช.หรือไม่ หลังเผยความเห็นที่ประเมินเบื้องต้น ว่าเนื้อหาเพลงค่อนข้างให้ร้ายประเทศไทย และทำให้ประเทศเสียหายอยู่หลายเรื่อง
และอาจกระทบกระเทือนกับเศรษฐกิจ
ทั้งพร้อมจะเชิญตัวเยาวชนและคนที่อยู่ในคลิป ว่ามีเจตนาที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายหรือขัดคำสั่งคสช.ด้วยหรือไม่
ขณะที่โฆษกรัฐบาลตัดสินทันทีคล้ายกันว่าการแสดงออกผ่านเพลงดังกล่าวเท่ากับการทำร้ายประเทศไทย
ท่าทีดังกล่าวของเจ้าหน้าที่รัฐทำให้เกิดข้อถกเถียงและข้อสงสัยมากมายในประเด็นคำถามว่าใครทำร้ายประเทศไทย
หากเจ้าหน้าที่มุ่งยึดเนื้อหาของเพลงและหน้าตาของรัฐบาล มากกว่าจะพิจารณาบรรยากาศการฟื้นฟูเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น อันเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย
หากมุ่งใช้อำนาจเอาเรื่องกับเยาวชนร้องเพลงที่มีเนื้อหาให้ฉุกคิดมากกว่าเพลงเพ้อฝัน จะเท่ากับเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด
เพราะกำลังจะบอกกับโลกว่าสิ่งที่ประเทศไทยไม่มีคืออะไร