คอลัมน์ บทบรรณาธิการ : ไม่เหมือนเดิม

 

นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส. ผู้อยู่เบื้องหลังการก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน ด้วยการย้อนรอยบาทย่างของม็อบนกหวีด

เริ่มที่ย่านเยาวราช สำเพ็ง สุขุมวิท สีลม เจริญกรุง และพื้นที่อื่นๆ เคยได้รับการตอบรับจากชาวกรุงเทพมหานคร จากนั้นจะออกไปยังต่างจังหวัด แบบค่ำไหนนอนนั่น อ้างเพื่อหาสมาชิกพรรค

เป็นที่น่าสังเกตว่านายสุเทพในวันนี้ ไม่เหมือนเมื่อครั้งระดมม็อบปิดกรุงเทพฯ ชัตดาวน์ประเทศไทย ที่มีคนกลุ่มหนึ่งขานรับ โดยเฉพาะชนชั้นกลางในเมือง ตลอดจนบุคคลที่อยู่ในแวดวงบันเทิง

เห็นความว้าเหว่ เดียวดาย เย็นชา และถูกหมางเมิน

ขณะเดียวกันก็มีเสียงตะโกนด่าทอ ต่อว่า บุกเข้าไปประชิดตัว ตอกย้ำสวนกลับว่าประชาชนรู้เท่าทัน แม้กระทั่งชูรูปชูป้ายสนับสนุนอีกฝ่าย จึงบังเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่า และคาดว่าจะมีอีกตามมา

แม้จะอ้างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพราะ ความใจแคบ ไม่เปิดกว้างยอมรับฟัง พร้อมระบุว่าเป็นการกระทำที่มีเบื้องหลัง ถูกว่าจ้างให้มาก่อกวน จึงเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่เลื่อนลอย

ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ไม่อนุญาตให้กลุ่มและคณะของนายสุเทพ เข้าไปทำกิจกรรม น่าสะท้อนความจริงอีกด้าน ที่เกิดขึ้นหลังการกระทำของม็อบนกหวีดจนนำไปสู่การรัฐประหารหรือไม่

พฤติกรรมที่ฮึกเหิมในอดีต ไม่ใช่ว่าจะได้รับการยอมรับทั้งหมด

ต้องยอมรับว่าการเมืองในมิติใหม่ คือการสนับสนุนส่งเสริมระบอบประชาธิปไตย มุ่งให้ ประชาชนมีสิทธิมีเสียงร่วมกำหนดชีวิตความเป็นอยู่และอนาคตของตัวเอง

การย้อนยุคกลับไปสู่การเมืองในอดีต ยึดติดกับจารีต และพึ่งพาอำนาจนิยม จนเกิดวงจรอุบาทว์ครั้งแล้วครั้งเล่า น่าจะไม่ได้รับการยอมรับอีก และจะค่อยๆ หมดความสำคัญในที่สุด

ความเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่เคยคิดว่ามีมวลชนสนับสนุนมหาศาล จนทำให้มั่นใจจนไปสู่การจัดตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา ก็เคยมีบทเรียนมาแล้วจากกลุ่มพันธมิตรฯ ซึ่งสุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จ

เมื่อแกนนำกปปส. ตัดสินใจเดินตามเส้นทางนี้ ก็ไม่แน่ใจว่าจะลุล่วงตาม เป้าหมาย เพราะสถานการณ์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน